ผลตอบแทนกองทุนหุ้นกำลังจะเปลี่ยนไป

ฉลองครบรอบ 5ปีกับบวิกฤตทางการเงินครั้งยิ่งใหญ่ "Hamburger Crisis" นักลงทุนท่านใดยังไม่กลับเข้าตลาดบ้างครับ???

Facebook Twitter LinkedIn

5 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหกครับ สำหรับวิกฤตทางการเงินครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเราครั้งหนึ่ง ซึ่งวิกฤตทางการเงินที่ผมพูดถึงอยู่นี้คือ Hamburger Crisis ซึ่งเป็นที่มาของวิกฤตทางการเงินทั่วโลก

ถ้ายังจำกันได้ปีนั้น 2551ผลตอบแทนตลาดหุ้นทั่วโลกติดลบอย่างมากโดยเฉลี่ยประมาณ 40-50% (ส่วนดัชนี SET Index ของเราในปีนั้นติดลบ -47.56%) รวมทั้ง การล้มของ Lehman Brother สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของโลกประสบปัญหาล้มละลาย ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาอย่างมากมายทั่วโลก

มาถึงปัจจุบันสถานการณ์ต่างๆดูเหมือนจะดีขึ้นเป็นลำดับ เศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงตลาดหุ้นของหลายประเทศเริ่มกลับมาคึกคักและสร้างผลตอบแทนได้อย่างน่าประทับใจ หลายดัชนีถึงขั้นทำจุดสูงสุด (New High) กันเลยที่เดียวไม่ว่าจะเป็น Dow Jones และ S&P 500 หรือแม้แต่ SET Index ของไทยก็ได้ทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 18 ป๊เช่นเดียวกันในช่วงกลางปี แต่ก็คงต้องดูกันต่อไปว่าจะมีความยังยืนมากน้อยแค่ไหน

กลับมาถึงหัวเรื่องที่ผมเกริ่นไว้ครับที่ว่า “ผลตอบแทนกองทุนหุ้นกำลังจะเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ” อย่างไรนะหรอครับ ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการครบรอบ 5 ปีของวิกฤตทางการเงินดังกล่าว เพราะเนื่องจากวิธีการแสดงผลตอบแทนของกองทุนที่เป็นแบบมาตราฐานนั้นส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี (YTD) และย้อนหลัง 1ปี 3ปี 5ปี และ 10ปี ซึ่งจุดสำคัญก็คือผลตอบแทนย้อนหลัง 5ปี เนื่องจากช่วงเวลานี้เมื่อ 5ปี ที่แล้วคือจุดต่ำสุดของดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก ดังนั้นในอีก 1 เดือนกว่าข้างหน้า เราจะเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากของผลตอบแทนย้อนหลัง 5ปีของกองทุนหุ้นเมื่อสิ้นสุดเดือนตุลาคมเปรียบเทียบกับสิ้นสุดเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่อาจรู้ได้ว่าดัชนีตลาดหุ้นจะเป็นเท่าไรเมื่อจบเดือนตุลาคมแต่ก็พอจะคาดได้ว่าไม่น่าจะต่างจากปัจจุบันเท่าไร

ตัวอย่างเช่น กลุ่มกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ที่มีผลตอบแทน 5ปีย้อนหลัง ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2556 เฉลี่ย 15.41% ต่อปี แต่ถ้าเราขยับมาเป็นสิ้น ณ สิ้นเดือนกันยายน 2556 โดยสมมติใช้ดัชนี ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2556 ผลตอบแทน 5ปีย้อนหลัง เฉลี่ยจะเป็น 18.83% ต่อปี และถ้าขยับมาเป็นสิ้นเดือนตุลาคม ผลตอบแทน 5ปีย้อนหลัง เฉลี่ยจะสูงขึ้นเป็น 26.8% ต่อปีทันที

5Years Lehman's collapse

*ข้อมูล ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2556

**ที่มา: บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) www.morningstarthailand.com

ไม่เพียงกองทุนที่ลงทุนหุ้นไทยเท่านั้นกองทุน FIF ที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศก็เช่นกันครับ ยกตัวอย่างกลุ่มกองทุนที่ลงทุนใน Asia Pacific ex-Japan ที่ปัจจุบันผลตอบแทน 5ปีย้อนหลัง ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2556 เฉลี่ย 0.3% ต่อปีแต่ถ้าเราขยับมาเป็นสิ้น ณ สิ้นเดือนกันยายน 2556 โดยสมมติใช้ดัชนี ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2556 ผลตอบแทน 5ปีย้อนหลัง เฉลี่ยจะเป็น 3.78% ต่อปี และถ้าขยับมาเป็นสิ้นเดือนตุลาคม ผลตอบแทน 5ปีย้อนหลัง เฉลี่ยจะสูงขึ้นเป็น 9.63% ต่อปีทันที

สิ่งนี้แสดงให้เห็นข้อจำกัดของการดูผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนซึ่งถ้านักลงทุนขาดความเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้วอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ว่าลงทุนในกองทุนหุ้นนั้นได้ผลตอบแทนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสูงมากทั้งที่ผ่านไปไม่กี่เดือน

และแน่นนอนครับสิ่งที่คาดการณ์ได้ต่อมาก็คือ น่าจะมีการโปรโมทเรื่องผลตอบแทนของกองทุนหุ้นจากตัวแทนขายหน่วยลงทุนและ บลจ. เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากและโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงท้ายของปีที่เป็นช่วงเวลาทองของการขาย LTF และ RMF ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการโปรโมทเรื่องดังกล่าวในเอกสารประกอบการขายและสื่อต่างๆกันอย่างครึกโครม ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผิดแต่อย่างไร เพียงแต่เป็นสิ่งที่นักลงทุนควรต้องทำความเข้าใจมากกว่าเนื่องจากผลตอบแทนที่เห็นนั้นเป็น

ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นในอตีดซึ่งก็ไม่ได้เป็นการการันตีผลตอบแทนในอนาคตแต่อย่างใด (Past Performance is not a guarantee of future returns)

อย่างที่ทราบครับ สินทรัพย์ประเภทตราสารทุนหรือหุ้นนั้นถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง มีความผันผวนในผลตอบแทนค่อนข้างมาก ดังนั้นผมอยากให้ท่านนักลงทุนทำความเข้าใจเรื่องดังกล่าวให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนครับ

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Kittikun Tanaratpattanakit

Kittikun Tanaratpattanakit  Senior Research Analyst