ได้เวลาสำหรับ LTF และ RMF แล้วหรือยัง

นักลงทุนหลายท่านรอจังหวะลงทุน LTF และ RMF กันมาทั้งปี สุดท้ายก็ซื้อกันตอนสิ้นปีเหมือนเดิม 

Facebook Twitter LinkedIn

          หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่ผมถูกถามมากที่สุดในแต่ละปีตลอดช่วง 5 ปีหลังที่ผ่านมานั้นก็คือ ลงทุน LTF และRMF ได้หรือยัง เรียกว่าบ่อยพอๆกับลงทุนกองทุนไหนดี จะว่าไปแล้วพัฒนาการที่เปลี่ยนไป (ในทางที่ดี) สำหรับปีนี้ก็คือ ผมได้รับคำถามนี้เร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมาซึ่งผมจะถูกถามในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งผมก็มักจะสวนกลับทันทีว่า “ยังไม่ซื้อกันบ้างอีกหรอครับ นี้มันจะหมดปีอยู่แล้วนะครับ?“

ก่อนที่ผมจะตอบคำถามที่ผมตั้งไว้ อยากจะขออนุญาตอัพเดทข่าวของกองทุนทั้ง 2 ประเภทนี้กันก่อนครับเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของกฎเกณฑ์เล็กน้อย โดยสิทธิในการลงทุนนั้นยังคงไว้ที่ไม่เกิน 15% ของรายได้แต่ไม่เกิน ห้าแสนบาทเช่นเดิม เพียงแต่รายได้ที่จะนำมาถูกประเมิณนั้นถูกระบุให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นโดยจะนับเฉพาะแต่รายได้ที่ต้องเสียภาษีเท่านั้น ดังนั้นรายได้อื่นๆที่ได้รับการยกเว้นภาษีอยู่แล้วจะมาสามารถนำมารวมเป็นรายได้สำหรับคำนวณการลงทุนใน LTF และ RMF อาทิเช่น กำไรจากการลงทุนในหุ้นหรือกองทุน เป็นต้น อีกทั้งยังมีข่าวถึงการต่ออายุสิทธิประโยชน์ทางภาษีของ LTF ที่ออกมาอยู่เรื่อยๆซึ่งตรงนี้ยังไม่ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามที่ชัดเจนคือ ท่านนักลงทุนยังคงได้รับสิทธิตามเดิมในปีนี้เหมือนดังเช่นที่ผ่านมาครับ

ต้องยอมรับว่ากองทุนทั้ง 2 ประเภทนี้ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากจากผู้ลงทุนในช่วง 5 ปีหลังที่ผ่านมาโดยเฉพาะเหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ทำให้ปัจจุบันกองทุน LTF มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมทั้งสิ้น 2.6 แสนล้านบาท ขณะที่ RMF มีอยู่ 1.69 แสนล้านบาท เนื่องจากมีสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีที่เห็นได้อย่างชัดเจนอีกทั้งผลตอบแทนจากการลงทุนก็ยังเป็นน่าพอใจกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ยกตัวอย่างผลตอบแทนเฉลี่ยทั้งของ LTF และ RMF (ที่ลงทุนในหุ้นไทย) ย้อนหลัง 10 ปีนั้นอยู่ที่ 10.75% และ 11.20% ต่อปีตามลำดับ นี้ขนาดว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้นมีวิกฤตทั้งในและต่างประเทศผ่านมามากมาย เช่น วิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2008 ปัญหาหนี้ยุโรปปี 2011 น้ำท่วมใหญ่ปี 2011 ความไม่สงบของการเมืองภายในประเทศ ปัญหาหนี้กรีซเมื่อช่วงต้นปีนี้

ข้อสังเกตที่เห็นได้ชัดจากพฤติกรรมการลงทุนใน LTF และ RMF ของนักลงทุนไทยในช่วงหลังนี้ เริ่มมีพัฒนาการไปในทางที่ดีมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เลิกสนใจของแจกของแถม (จริงๆแล้ว กลต สั่งห้าม) หันมาสนใจเรื่องของผลการดำเนินงานของกองทุนกันมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากเงินลงทุนที่หลั่งไหลเข้าไปยังกองทุนที่ทำผลงานได้ดีเป็นจำนวนมาก และเริ่มมีการลงทุนแบบเฉลี่ยมากขึ้น ไม่รอลงทุนในช่วงท้ายของปี (สองสัปดาห์สุดท้าย) ดังเช่นในอดีต แต่อย่างไรก็ตามเงินส่วนใหญ่ก็ยังกระจุกตัวในช่วงท้ายของปี

ทีนี้กลับมาที่คำถามที่ผมได้ตั้งเอาไว้กันครับ ได้เวลาสำหรับ LTF และ RMF แล้วหรือยัง? ผมขอตอบสั้นๆครับ ถ้าท่านยังไม่ลงทุน ลงทุนได้เลยครับ เหตุผลสั้นๆมีดังนี้ครับ

  1. ดัชนี SET Index ณ เวลานี้อยู่ในระดับต่ำสุดของปี (ลดลงกว่า 12% จากจุดสูงสุดของปีเมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์) หมายความว่าท่านนักลงทุนได้ซื้อของถูกที่สุดแล้วนับตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา
  2. หลายท่านที่มีปัญหาขาดสภาพคล่องยังไม่มีเงินที่จะลงทุนในช่วงต้นปี เชื่อว่าน่าจะมีเงินพร้อมลงทุนกันมากขึ้นเนื่องจากท่านได้สะสมเงินออมมาแล้วกว่าครึ่งปี อีกทั้งหลายบริษัทมีการจ่ายโบนัสระหว่างปีอีกด้วย
  3. ท่านนักลงทุนจะได้ฝึกนิสัยการออมพร้อมกับการลงทุนแบบถั่วเฉลี่ย (Dollar Cost Average) ซึ่งจากผลการศึกษาที่ผ่านมานั้นการลงทุนแบบถั่วเฉลี่ยนี้จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนแบบครั้งเดียว ทั้งในช่วงตลาดผันผวนและตลาดขาลง

ทั้งนี้ผมอยากฝากข้อมูลเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ล่าสุดในการลงทุน LTF และ RMF ที่ได้รวบรวมจากข้อมูลของ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2015 พบว่าเริ่มมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ากองทุน LTF และ RMF อย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะล่าสุดเดือนกรกฎาคมในช่วงที่ตลาดหุ้นตกนี้มีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุน LTF และ RMF กว่า 3,500 ล้านบาท และ 1,500 ล้านบาท

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Kittikun Tanaratpattanakit

Kittikun Tanaratpattanakit  Senior Research Analyst