ผลตอบแทนกองทุนรวมตามกลุ่ม Morningstar

ผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมกราคม กองทุนหุ้นทั่วโลกสดใสเห็นสีเขียวกันถ้วนหน้า แต่เมื่อเข้าเดือนกุมภา ทุกอย่างเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที

10 อันดับผลตอบแทนกองทุนรวมตามกลุ่มมอร์นิ่งสตาร์ (Morningstar Categories)

*Rank ตามผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมกราคม

*ข้อมูลส่วนอื่น สิ้นสุด ณ 9 กพ 2561

หากเราลองย้อนไปดูข้อมูลตัวเลขค่าเฉลี่ยกองทุนในกลุ่มประเภทการลงทุนของมอร์นิ่งสตาร์ ผลตอบแทนเฉพาะเดือนมกราคม หุ้นทั่วโลกเป็นบวกทั้งหมดรวมถึงหุ้นไทยด้วย 5 อันดับแรก นำโดยกองทุนหุ้นจีน เฉลี่ยที่ +9.55%, ตามด้วย Emerging Market Equity +6.37%, Commodities Energy +5.87%, Global Health Care +4.60% และ US Equity +3.96% แต่หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับฐานลงแรงตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ 2 กพ จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ (Bond Yield) ที่ปรับตัวขึ้น และประเด็นความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยเร็วของ Fed ทำให้เกิดแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยงทั้งในตลาดหุ้น ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) และทองคำที่ปรับตัวลงมาตามๆ กัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกติดลบกันอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา (3-9 Feb) กองทุนหุ้นจีนติดลบมากถึง -9.86% (YTD -1.88%), ตามด้วย กองทุนน้ำมัน -7.89% (YTD -2.09%) และ กองทุนญี่ปุ่น -7.24% (YTD -5.18%)

แต่หากมองภาพในระยะยาว ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา กองทุนหุ้นทั่วโลกให้ผลตอบแทนเป็นบวกเกือบทั้งสิ้น (ยกเว้นกลุ่มกองทุนน้ำมัน) ดังนั้นสิ่งที่อยากจะฝากเป็นข้อคิดให้กับนักลงทุน คงเป็นเรื่องของการลงทุนระยะยาว จัดสรรทรัพย์สินในการลงทุนให้เหมาะกับความเสี่ยงของเรา (Asset Allocation) และไม่ควรไล่ล่าผลตอบแทน (Chase Returns) ท้ายนี้สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงๆ ย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยง และความผันผวนในการลงทุนนะคะ