ลงทุน ETF ต่างประเทศผ่านกองทุนรวม

ดูภาพรวม ETF ของไทยกันไปแล้ว วันนี้มาดูกันว่ามีกองทุน ETF ต่างประเทศกองใดที่นักลงทุนสามารถลงทุนผ่านกองทุนรวมไทยได้บ้าง

Morningstar 26/04/2562
Facebook Twitter LinkedIn

เมื่อสิ้นไตรมาสแรกที่ผ่านมามีกองทุนไทย 48 กองที่มีนโยบายลงทุนในอีทีเอฟ รวมมูลค่าทรัพย์สินสุทธิราว 2.4 หมื่นล้านบาท (แบ่งออกไปลงทุนกองทุนอีทีเอฟจำนวน 24 กอง) เพิ่มขึ้น 7.3% จากสิ้นปี 2018 โดยมี Hang Seng China Enterprises ETF เป็นอีทีเอฟที่มีกองทุนรวมไทยไปลงทุนสูงสุด หรือ 30% ของมูลค่ากองทุนรวมไทยทั้งหมดที่ลงทุนอีทีเอฟ และในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา (สิ้นสุดมีนาคม 2019) กองทุนรวมไทยกลุ่มนี้มีผลตอบแทนเฉลี่ย 7.3% ต่อปี โดย 5 อันดับกองทุนอีทีเอฟที่มีกองทุนรวมไทยเข้าลงทุนสูงสุดมีดังนี้

1 Hang Seng China Enterprises ETF (Ticker: 2828)

Morningstar Rating: 2 ดาว

บริษัทจัดการกองทุน: Hang Seng Investment Management Limited

กองทุนนี้ลงทุนตามดัชนี Hang Seng China Enterprises Index ซึ่งสะท้อนผลตอบแทนจากหุ้นจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในฮ่องกง (H-Shares) มีน้ำหนักกลุ่มธุรกิจการเงิน (Financials) มากที่สุดราว 50% มูลค่าทรัพย์สินที่กองทุนรวมไทยเข้าลงทุนโดยประมาณอยู่ที่ 7.3 พันล้านบาท ผลตอบแทนเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังที่ 7.3% ต่อปี โดยมีกองทุนรวมลงทุนในกองทุนอีทีเอฟนี้ 13 กองทุน ได้แก่ บลจ.กรุงศรี KF-CHINA, บลจ.วรรณ ONE-CHINA, บลจ.ไทยพาณิชย์ SCBCE, SCBCEH, SCBCEHP, SCBCEP, บลจ.ธนชาต T-CHCHALLENGE#1, บลจ.ทิสโก้ TCHRMF, TCHT5M2, TISCOC19, TISCOC20, TISCOC21, TISCOCH

2 SPDR® S&P 500 ETF (Ticker: SPY)

Morningstar Rating: 4 ดาว

บริษัทจัดการกองทุน: State Street Global Advisors

กองทุนนี้เป็นอีทีเอฟที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลกด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิราว 2.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีนโยบายลงทุนตามดัชนี S&P 500 Index ซึ่งประกอบด้วยหุ้น 500 ตัวที่จดทะเบียนซื้อขายในสหรัฐอเมริกา ดัชนีดังกล่าวมีน้ำหนักธุรกิจกลุ่ม Information Technology สูงสุดราว 21% มูลค่าทรัพย์สินที่กองทุนรวมไทยเข้าลงทุนโดยประมาณอยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท ผลตอบแทนเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังที่ 9.6% ต่อปี กองทุนรวมที่ลงทุนใน SPDR® S&P 500 ETF มีจำนวน 5 กองทุนได้แก่ บลจ.แอสเซทพลัส ASP-S&P500, บลจ.ไทยพาณิชย์ SCBS&P500, SCBS&P500, บลจ.ทิสโก้ TISCOUS, TISCOEQ-UH, TUSRMF

3 iShares FTSE A50 China ETF (Ticker: 2823)

Morningstar Rating: 3 ดาว

บริษัทจัดการกองทุน: BlackRock

iShares FTSE A50 China ETF เป็นกองทุนอีทีเอฟที่มีการลงทุนตามดัชนี FTSE China A50 Index ซึ่งประกอบด้วยหุ้นบริษัทจดทะเบียนของจีนที่ใหญ่ที่สุด 50 บริษัทที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้หรือเซินเจิ้นหรือที่เรียกกันว่าหุ้น A-Shares โดยดัชนี FTSE China A50 Index มีน้ำหนักธุรกิจการเงินเป็นสัดส่วนหลักราว 61% มูลค่าทรัพย์สินที่กองทุนรวมไทยเข้าลงทุนโดยประมาณอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท ผลตอบแทนเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังที่ 9.9% ต่อปี มีเพียงกองทุน TMBCHEQ โดย บลจ.ทหารไทย ที่มีนโยบายลงทุนในอีทีเอฟนี้เป็นกองทุนหลัก

4 iShares Core S&P 500 ETF (Ticker: IVV)

Morningstar Rating: 5 ดาว

บริษัทจัดการกองทุน: BlackRock

IVV เป็นอีกหนึ่งอีทีเอฟโดย BlackRock ที่กองทุนรวมไทยนิยมไปลงทุน โดยมีนโยบายลงทุนตามดัชนี S&P 500 Index เป็นอีทีเอฟที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (มูลค่าสูงสุดอันดับ 2 รองจาก SPDR® S&P 500 ETF) มูลค่าทรัพย์สินที่กองทุนรวมไทยเข้าลงทุนโดยประมาณอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท ผลตอบแทนเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 9.4% ต่อปี กองทุนรวมไทยที่มีนโยบายลงทุนใน IVV เป็นกองทุนหลักได้แก่ บลจ.กรุงศรี KF-HUSINDX, บลจ. ทหารไทย TMBUS500RMF, TMBUS500

5 ChinaAMC CSI 300 ETF (Ticker: 3188)

Morningstar Rating: 3 ดาว

บริษัทจัดการกองทุน: China Asset Management (HK)

ChinaAMC CSI 300 ETF มีนโยบายลงทุนเพื่อให้มีผลตอบแทนใกล้เคียงกับ CSI 300 Index หรือตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ที่ประกอบด้วยหุ้นจีน A-Shares ขนาดใหญ่ที่สุด 300 ตัว ประกอบด้วยหลากหลายอุตสาหกรรมนำโดยกลุ่มการเงิน (Financials) ราว 39% มูลค่าทรัพย์สินที่กองทุนรวมไทยเข้าลงทุนโดยประมาณอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาทซึ่งเป็น 2 กองทุนจาก บลจ.ไทยพาณิชย์ คือ SCBCHAP และ SCBCHA ผลตอบแทนเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังที่ 2.7% ต่อปี

ได้รับทราบข้อมูลกองทุน ETF ที่กองทุนรวมไทยนิยมไปลงทุนกันแล้ว จะเห็นได้ว่าการลงทุน ETF มักเป็นการลงทุนในประเทศจีน (ทั้ง A-Shares และ H-Shares)  และสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดหลัก ด้วยปัจจัยแวดล้อมการลงทุนที่คล้ายกันของแต่ละกองทุน นักลงทุนจึงควรพิจารณาปัจจัยเฉพาะของแต่ละกองทุนเช่น กองทุนใดมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนหรือไม่อย่างไร หรือความแตกต่างด้านค่าธรรมเนียม เป็นต้น หากท่านนักลงทุนสนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมหรือสอบถามข้อมูลกับทาง บลจ. พร้อมทั้งพิจารณาสัดส่วนการลงทุนเพื่อให้มีความเสี่ยงที่เหมาะสมกับนักลงทุนทุกครั้งนะคะ

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar