ราคาทองคำกับสถานการณ์ Coronavirus

ตลาดหุ้นมีความตระหนกกับ Coronavirus อย่างมาก ในขณะที่ราคาทองคำก็ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว

Morningstar 27/02/2563
Facebook Twitter LinkedIn

หนึ่งในกิจวัตรประจำวันของนักลงทุนหลายท่านในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นการอัพเดทข่าวจำนวนผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรน่าว่ามีเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด ในขณะเดียวกันก็ต้องติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นว่าจะได้รับผลกระทบอย่างไร โดยนับตั้งแต่ต้นปีนี้ผลตอบแทนกองทุนหุ้นไทยได้รับผลกระทบค่อนข้างมากโดยเฉพาะในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ตลาดปรับตัวลงรุนแรง โดยกลุ่ม Equity Large-Cap มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์เฉลี่ยที่ -11.9% ในขณะที่กองทุนกลุ่ม Equity Small/Mid-Cap อยู่ที่ -11.3% ใกล้เคียงผลตอบแทน SET TR ที่ -13.2%

เมื่อมีการระบาดไปทั่วโลกก็ทำให้ตลาดหุ้นในหลายประเทศได้รับแรงกดดันเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะประเทศในโซนเอเชียที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อในอันดับต้น ๆ เช่น ญี่ปุ่น (NIKKEI -7.2%), ฮ่องกง (HIS -5.0%), เกาหลีใต้ (KOSPI -6.5%) หรือแม้กระทั่งในสหรัฐฯ ที่มีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้นทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ สะท้อนความกังวลเช่นกัน โดยดัชนี Dow Jones ลดลงมากกว่า 2,000 จุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

หุ้นลง ราคาทองคำขึ้น

จากความตื่นตระหนกในหลายประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดนี้เองทำให้เกิดความกังวลเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ทองคำที่ถูกมองว่าเป็น safe haven เมื่อตลาดหุ้นตก ได้รับความสนใจจากตลาดยิ่งขึ้น หากนักลงทุนติดตามราคาทองคำจะพบว่าราคาทองคำได้มีการปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยมีหลายปัจจัยหนุนเช่น สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หรือนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายและในปีนี้ยังมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 1,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งราคาทองคำในประเทศไทยก็ปรับตัวขึ้นไปเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากมองย้อนไปในอดีตจะพบว่าราคาทองคำเคยไปแตะที่ระดับ 1,900 ดอลลาร์ ในปี 2011 ซึ่งเป็นช่วงตลาดฟื้นตัวหลังเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงิน
ในอดีตเรามักจะคุ้นเคยกับภาพของการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและราคาทองคำที่มักจะไปในทิศทางตรงกันข้าม กล่าวคือเมื่อราคาทองคำหรือตราสารหนี้ปรับตัวขึ้นจะเป็นการสะท้อนความกังวลของนักลงทุนเมื่อตลาดหุ้นมีการปรับตัวขึ้นในระดับสูงแล้ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าทองคำอาจทำให้นักลงทุนอุ่นใจด้วยเหตุที่ทองคำนั้นมีมูลค่าในตัวเอง รูปแบบการลงทุนทองคำก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาตามความเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ทางมอร์นิ่งสตาร์เคยพูดถึงการลงทุนทองคำในบทความ เราควรลงทุนในทองคำหรือไม่

ราคาทองคำขึ้นและหุ้นขึ้น?

อีกมุมมองหนึ่งโดย Chris Mahoney ผู้จัดการกองทุน Merian Gold & Silver Fund ให้ความเห็นว่าการที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นพร้อมกับราคาทองคำนั้นถือว่าสมเหตุสมผลหากอยู่ในช่วงที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำมาก เพราะนักลงทุนจะไม่ได้ผลตอบแทนที่ดีนักจากตราสารหนี้ทำให้ 1) นักลงทุนอาจจะพอใจที่จะลงทุนในทองคำแม้ว่าอาจไม่ก่อให้เกิดรายได้ใด ๆ ในขณะเดียวกัน 2) เกิดความต้องการลงทุนในหุ้นมากขึ้นซึ่งจะดันราคาหุ้นในตลาดสูงยิ่งขึ้นไปอีก รวมทั้งได้ให้ข้อสังเกตว่านักลงทุนอาจซื้อทองคำเพราะราคากำลังปรับตัวขึ้น หรือเรียกว่า Momentum investing ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องในปีนี้

กองทุนรวมทองคำของไทย (กลุ่ม Commodities Precious Metals) นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงที่ 8.1%-15.6% หรือโดยเฉลี่ยราว 10% ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันจากนโยบายป้องกันอัตราแลกเปลี่ยน ค่าธรรมเนียม กองทุนปลายทางอยู่ต่างประเทศกัน โดย 10 อันดับกองทุนทองคำที่มีผลตอบแทนสูงสุดมีดังนี้

2020 02 27 Top 10 gold funds TH

ที่มา : Morningstar Direct, ข้อมูล ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2020

ในปีนี้นักลงทุนอาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงหรืออาจวิตกกับผลตอบแทนการลงทุนที่ดูไม่น่าพอใจนัก แต่อย่างไรก็ตามการมีวินัยในการลงทุนระยะยาวยังคงเป็นสิ่งจำเป็นที่นักลงทุนควรคำนึงถึง รวมทั้งมีการพิจารณาทำความเข้าใจในความเสี่ยงของตราสารที่ลงทุน ประกอบกับการวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง ซึ่งมอร์นิ่งสตาร์เชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาต่าง ๆ และมีผลการลงทุนที่บรรลุเป้าหมายในระยะยาวได้

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar