ปี 2020 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่มีความผันผวนมากปีหนึ่งของตลาดหุ้นไทย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับกองทุนรวมหุ้นไทย มูลค่ากองทุนหุ้นไทย (ไม่รวม LTF, RMF, SSF และ SSFX) ลดลง 22.3% จากสิ้นปี 2019 ไปอยู่ที่ราว 2.3 แสนล้านบาท แต่เป็นการเพิ่มขึ้น 9.0% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยการลดลงของมูลค่าทรัพย์สินนั้นมาจากทั้งผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมทั้งปีราว -9.5% (SET TR -5.2%) และปริมาณเงินไหลออกสุทธิ ที่พบว่าในไตรมาสสุดท้ายดัชนี SET Index มีการปรับตัวขึ้นกว่า 17% เป็นส่วนให้มีการขายหน่วยลงทุนกองทุนกลุ่มนี้ ทำให้ยังคงมีเงินไหลออกต่อเนื่องอีก 9.8 พันล้านบาท รวมทั้งปีเป็นเงินไหลออกสุทธิ 2.8 หมื่นล้านบาท โดยจะพบว่ามีความแตกต่างกับในอดีตที่ในไตรมาสสุดท้ายมักจะเป็นช่วงที่มีเงินไหลเข้าสุทธิ
ในปริมาณเงินไหลออกสุทธิ 2.8 หมื่นล้านบาท หากแบ่งกองทุนที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมเต็มปี 2020 จำนวน 220 กองทุน ออกเป็น 10 กลุ่ม (decile) ตามอัตราผลตอบแทนสะสมรอบปี 2020 โดยกลุ่ม top decile เป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดและ Bottom decile เป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำสุด พบว่า top decile เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกหรือเกือบ 7% และ bottom decile มีผลตอบแทนเฉลี่ย -18.0% โดยจะเห็นได้ว่าไม่ว่าผลตอบแทนจะเป็นบวกหรือติดลบมากน้อยเพียงใด ทุกกลุ่มล้วนมีปริมาณเงินไหลออกสุทธิ โดยมีแนวโน้มที่ผลตอบแทนแย่กว่าจะมีเงินไหลออกมากกว่า
หากแยกเฉพาะกองทุนเปิดใหม่จะพบว่า แม้กองทุนหุ้นไทยส่วนใหญ่มีเงินไหลออก แต่กองทุนหุ้นไทยที่เปิดใหม่ยังมีปริมาณเงินไหลเข้าสุทธิที่สูง รวมมากกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท โดยในปี 2020 นี้มีกองทุนหุ้นไทยจากบลจ. AIA (AIAIM) เปิดใหม่ 3 กองทุนที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 1.4 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้หากดูข้อมูลย้อนหลังในหลายปีก่อนหน้าก็จะพบภาพที่คล้ายกันคือ กองทุนหุ้นไทยที่เปิดใหม่ในแต่ละปีมักจะมีเงินไหลเข้าสุทธิที่ชัดเจนหรือโดดเด่นกว่ากองทุนหุ้นไทยที่มีอยู่ในตลาด แม้ว่าบางกองทุนอาจไม่แตกต่างจากกองทุนที่มีอยู่เดิมมากนัก
5 อันดับผลตอบแทนกองทุนหุ้นไทย (ไม่รวม LTF, RMF, SSF และ SSFX) ประจำปี 2020