ประเทศจีนหลัง lockdown ครบรอบ 1 ปี

1. เศรษฐกิจจีนกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

ในปี 2020 ที่ผ่านมา จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้ถึง 2.3%ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายของปีที่เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี หรือขยายตัวได้ถึง 6.5% จากปีก่อนหน้า การเติบโตของจีนตรงกันข้ามกับสหรัฐและอังกฤษอย่างสิ้นเชิงที่คาดว่าเศรษฐกิจจะโตติดลบ 3.6% และ 11% ตามลำดับ

2. ตลาดหุ้นจีนยังปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี

ตลาดหุ้นทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบจากการระบาด COVID19 อย่างมาก หลังถูกแรงขายอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา แต่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงแค่ชั่วคราวเท่านั้น โดย Shanghai Composite index ปรับลดลงไปสู่จุดต่ำสุดของปีที่ 2,660 จุดในช่วงเดือนมีนาคม ก่อนที่จะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3,500 จุดในเดือนกรกฏาคมและปิดปีที่ในระดับดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปี 2020 โดย Morningstar China Index +21.16% (Local currency terms) นำตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับเพิ่มขึ้นเพียง 16% ในปีดังกล่าว

3. เงินลงทุนใน China Bond ETF เพิ่มขึ้นจำนวนมาก

ปีที่แล้วนักลงทุนเริ่มย้ายเงินลงทุนมาอยู่ใน Index funds หรือ ETFs กันมากขึ้น โดยเฉพาะ China Bond ETF ที่มีเงินไหลเข้ามากถึง €4.7billion ซึ่งเป็นเพราะแนวโน้มการแข็งค่าของเงินหยวนและอัตราผลตอบแทนที่สูงนั่นเอง โดย ETF ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ iShares China CNY Bond ETF (CNYB)  ขณะที่ China Equity ETFs ก็มีเงินไหลเข้าสูงถึง €1.78billion ในปีที่ผ่านมา

4. China funds ให้ผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาดโดยรวม

การเคลื่อนไหวของกองทุน China fund ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหุ้นจีน โดยปรับลงช่วงต้นปีก่อนที่จะปรับเพิ่มสูงขึ้นในภายหลัง อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนโดยรวมของ China funds จำนวน 4 กองทุนที่ได้รับการจัดอันดับสูงที่สุดหรือได้รับ Gold rating จาก Morningstar ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีตลาดหุ้นถึง 21% โดย Schroder ISF Greater China คือกองทุนประเภท Gold ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดถึง 40% แต่ยังน้อยกว่าผลตอบแทนของกองทุนที่ได้รับ Silver rating อย่าง JPMorgan China (JCGI) และ open-ended fund JPMorgan China ที่ให้ผลตอบแทน 83% และ 65% ตามลำดับ

5. ธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนัก

Trip.com ผู้ให้บริการการท่องเที่ยวผ่านช่องทาง Online เป็นหนึ่งธุรกิจที่ราคาหุ้นไม่ได้ Outperform ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการจำกัดการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ส่งผลให้ราคาหุ้นผันผวนอย่างมากและปรับลดลงแรงในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ก่อนที่จะปรับขึ้นหลังจากที่จีนเริ่มผ่อนคลายการเดินทางภายในประเทศ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าราคาหุ้นในปัจจุบันได้สะท้อนต่อข่าวดีนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ธุรกิจท่องเที่ยวยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมากในอนาคต ซึ่ง Trip.com ถือเป็นผู้นำโดยมีส่วนแบ่งตลาดใหญ่ที่สุดในจีนขณะนี้

นักลงทุนที่สนใจกองทุนหุ้นจีนสามารถดูข้อมูลได้ที่นี่ https://bit.ly/2Fpekk8