หากพูดถึงจุดเด่นของกองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยง คงหนี้ไม่พ้นการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ เรียกได้ว่าเอาชนะค่าเฉลี่ยของกลุ่มได้ทุกปี และการได้รับรางวัล Morningstar Awards 2015 ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ของ กองทุน ในประเภทกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ประเภทตราสารแห่งทุน (Retirement Mutual Fund – Equity)
กองทุน ABSC – RMF เป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ที่มีนโยบายการลงทุนระยะยาวในหุ้นสามัญของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการเลือกหุ้นที่มีคุณภาพ
สำหรับกลยุทธ์ลงทุนในตราสารทุน อเบอร์ดีนยังคงลงทุนแบบ active โดยใช้วิธี bottom-up เลือกหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งเป็นรายตัว โดยเลือกซื้อในราคาที่เหมาะสม เพื่อมุ่งเน้นผลตอบแทนที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานในระยะปานกลางถึงระยะยาว คือ 3-5 ปีขึ้นไป กองทุนนี้มีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่โดดเด่น โดยในปี 2557 กองทุนให้ผลตอบแทน 17.86% สูงกว่าเกณฑ์มารตรฐาน ผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ซึ่งอยู่ที่ 16.30%.
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้กองทุนประสบความสำเร็จคือการลงทุนตามปรัชญาและแนวทางการลงทุนที่เน้นการเลือกลงทุนในบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีงบการเงินแข็งแกร่ง เพื่อผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ประกอบกับการที่กองทุนของอเบอร์ดีนบริหารโดยทีมผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถ มีธรรมมาภิบาลที่โปร่งใส และที่สำคัญมีการวิเคราะห์บริษัทที่จะไปลงทุนด้วยตัวเอง ทำให้มีความรู้ความเข้าใจและเลือกทุนในบริษัทที่ให้โอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว
โดยกองทุนนี้ลงทุนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค เป็นต้น
อเบอร์ดีนเลือกลงทุนในหุ้นรายตัวที่มีการดำเนินธุรกิจที่ดี โดย ณ สิ้นเดือนมกราคม 2558 5 อันดับแรกของหลักทรัพย์ที่ลงทุนประกอบด้วยบริษัทที่มีชื่อเสียง ได้แก่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย และ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยกองทุนให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มประกันชีวิตและประกันภัย กลุ่มวัสดุก่อสร้าง สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ในขณะที่ให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่ม พลังงาน และ กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร น้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
สำหรับพอร์ตการลงทุน กลุ่มอุตสาหกรรมที่ลงทุนนั้น เป็นผลลัพธ์ของการเข้าเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัว โดยกองทุนนี้ลงทุนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค เป็นต้น
อเบอร์ดีน มองโอกาสในการลงทุนในอนาคตว่า สถานการณ์ปัจจุบันหลังการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล การเติบโตของภาคการส่งออกที่ชะลอตัว และเศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงมีหนี้ภาคครัวเรือนในระดับสูง ตลอดจน จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจน่าจะมีอัตราการเติบโตที่ประมาณร้อยละ 4 ในปีนี้ นักลงทุนในประเทศโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันกลับเข้ามาลงทุน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการคาดการณ์ในผลของกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่อาจปรับตัวสูงขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เช่นเดียวกับการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาว จากระดับราคาน้ำมันที่ต่ำ ดุลการค้าและดุลการชำระเงินที่เป็นบวกที่ส่งผลดีต่อค่าเงินบาท แม้ว่าค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯจะแข็งค่าขึ้น สิ่งที่รัฐบาลจัดการเป็นมาตรการทางเศรษฐกิจที่สมเหตุสมผล ซึ่งเน้นในเรื่องการขยายฐานภาษีให้เหมาะสมมากขึ้นและเป็นธรรม
โดยรวมเศรษฐกิจไทยน่าจะสดใสมากขึ้นจากความแข็งแกร่ง แม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงไม่ชัดเจน ความผันผวนของตลาดหลักทรัพย์ไทยก็ยังให้โอกาสในการลงทุนในบริษัทที่ดี เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย โดยตลาดหลักทรัพย์ไทยยังคงมีระดับราคาและมีการจ่ายปันผลอย่างสมเหตุสมผล และคาดว่าสุดท้ายแล้วนักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุน
การลงทุนในกองทุน ABSC – RMF เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่งคั่งในวัยเกษียณ RMF ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับนักลงทุนที่หาโอกาสการลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนในระยะยาวที่สูงกว่าการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ โดย RMF นั้นมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายทั้งในหุ้น ตราสารหนี้ หรือมีนโยบายการลงทุนแบบผสมตลอดจนลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ นักลงทุนที่ลงทุนใน RMF จึงสามารถเลือกที่จะกระจายการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญในการลงทุนผ่านกองทุนรวมคือการรู้จักตัวผู้ลงทุนเอง และ การศึกษาข้อมูลกองทุนให้เข้าใจ ก่อนตัดสินใจลงทุน