ข้อควรปฎิบัติและควรหลีกเลี่ยง

1. ออมเงิน

แน่นนอนอยู่แล้ว คุณคงไม่สามารถลงทุนได้หากคุณไม่มีเงิน  การออมเป็นสิ่งที่สำคัญมากในปัจจุบัน ซึ่งหากคุณไม่เริ่มสร้างวินัยให้การออมให้กับตัวเองในวันนี้ อนาคตข้างหน้าอาจจะต้องเผชิญกับความยากลำบาก ในวันที่คุณไม่มีรายได้ หรือ ต้องการใช้เงินฉุกเฉิน โดยส่วนใหญ่มักแนะนำให้เก็บออม 20% ของรายได้ต่อเดือน โดยสัดส่วนนี้ไม่ได้ตายตัว สามารถปรับลดได้ตามสถานะของแต่ละบุคคล

2. ง่ายเข้าไว้

พยายามหลีกเลี่ยงการลงทุนในสิ่งที่คุณไม่ถนัด ผลตอบแทนสูงๆ หรือคำแนะนำจากกูรูต่างๆ อาจนำคุณไปสู่การลงทุนที่คุณไม่เชี่ยวชาญ และไม่เข้าใจได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น ยิ่งคุณลงทุนในเรื่องที่ไกลตัวคุณมากเท่าไหร่ โอกาสขาดทุนของคุณก็ยิ่งสูงตามไปด้วย ดังเช่นคำเตือนที่ทุกบลจ. จะต้องใส่ไว้ข้างท้ายหนังสือชี้ชวนว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

3. ถูกไว้ก่อน

เวลาคุณไปซื้อของใช้ต่างๆ คุณยังต้องศึกษา ส่วนลด โปรโมชั่น เปรียบเทียบ ก่อนซื้อทุกครั้ง การลงทุนก็เหมือนกัน ค่าธรรมเนียมต่างๆในกองทุนนั้น ส่งผลโดยตรงกับผลตอบแทนของคุณ ดังนั้นคุณควรจะศึกษาเรื่องค่าใช้จ่ายของกองทุนอย่างละเอียด เพราะในบางครั้งกองทุนที่ลงทุนเหมือนกัน อาจมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างได้  

4. ลดหย่อนภาษี

คงไม่มีใครอยากเสียภาษีมากๆ ทุกปี ปัจจุบันมีหลายวิธีที่ช่วยให้คุณเสียภาษีน้อยลงได้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสัดส่วนเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การซื้อกองทุนประหยัดภาษี LTF RMF ประกันชีวิต และประกันบำนาญ ดังนั้นในแต่ละปีคุณควรแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับลงทุนในส่วนนี้ด้วย เพราะนอกจากได้ลดหย่อนภาษีแล้ว คุณอาจจะได้กำไรส่วนต่าง (capital gain) เพิ่มเป็นของแถมตอนคุณขายกองทุนอีกด้วย

5. จดทุกการตัดสินใจ

จดเหตุผลในการตัดสินใจซื้อ ขายหุ้นหรือกองทุนของคุณในแต่ละครั้งเก็บไว้ วิธีนี้จะทำให้คุณเรียนรู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง และยังทำให้รู้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จของคุณนั้นเกิดจากอะไร เช่น ตอนช่วงวิกฤต Subprime คุณตกใจกลัว ขายหุ้น กองทุน ทิ้งไป หรือ คุณใช้วิกฤตนี้ไปโอกาสเก็บของถูกในการลงทุน หากเป็นข้อหลังก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ

ข้อควรหลีกเลี่ยง

1. จ่ายแพงเกินจริง

อย่างที่บอกไว้ในข้อสาม คุณไม่ควรมองข้ามค่าธรรมเนียมต่างๆในการลงทุน อย่าลืมพิจารณาค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายในการลงทุนต่างๆว่าเหมาะสมหรือไม่อยู่เสมอ เหมือนกับคำพูดที่ว่า “จ่ายแพงกว่าทำไม”

2. จับตาดูพอร์ตการลงทุน

พยายามอย่าให้ความสนใจกับความเคลื่อนไหวของตลาดมากจนเกินไป หรือจับตาดูพอร์ตการลงทุนตัวเองเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือแม้กระทั่งรายเดือนก็ตาม ลองเลิกสนใจข่าว และปล่อยวางพอร์ตของคุณบ้าง ข้อนี้อาจทำได้ยาก แต่การเพิกเฉยต่อเสียงรอบข้าง หรือความผันผวนของภาวะตลาดรายวัน สามารถช่วยให้คุณตั้งมั่นอยู่กับเป้าหมายระยะยาวของคุณได้ดีขึ้น และยังช่วยป้องกันตัวคุณจากการปรับพอร์ตการลงทุนผิดเวลาได้อีกด้วย (Market timing)