ชวนนักลงทุนทุกท่านมาดูวิธีการคิด Rating แบบเจาะลึกแต่เข้าใจง่าย พร้อมตัวอย่างประกอบ
เชื่อว่านักลงทุนหลายคนคงต้องเคยได้ยินหรือแม้กระทั่งได้ใช้ Morningstar Rating กันมาบ้างแล้วนะคะ รวมถึงมีบทความที่เขียนเกี่ยวกับ Morningstar Rating ในลักษณะที่เน้นสรุปเชิง Concept มาพอสมควร แต่ในวันนี้ลองมาทบทวนวิธีการคิด (Calculation methodology) กันแบบเจาะลึก Step-by-Step กันอีกซักครั้งหนึ่ง
อย่างที่ทุกท่านพอทราบกันบ้างแล้วว่าการจัด Rating นั้น จะเปรียบเทียบภายในกลุ่มกองทุนที่มีประเภทการลงทุนเหมือนกัน (Morningstar category) โดยกองทุนที่จะได้รับการจัดอันดับนั้นต้องมีผลตอบแทนอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป และที่สำคัญวิธีการจัดอันดับนั้นใช้วิธีคำนวณเดียวกันทั่วโลก โดยวิธีการคำนวณนั้นคิดมาจากค่าที่เรียกว่า Morningstar Risk Adjusted Return (MRAR) โดยเป็นค่าที่ถูกปรับด้วยความเสี่ยงจากการใช้ทฤษฎีอรรถประโยชน์ (Investor Utility Curve) นั้นเอง ง่ายๆก็คือ นักลงทุนไม่ชอบความเสี่ยง และไม่ชอบความผันผวนที่เป็นลบ ดังนั้นกองทุนที่มีความเสี่ยงมากหรือมีความผันผวนมากจะโดนตัดคะแนนมากกว่ากองทุนที่มีผลตอบแทนสม่ำเสมอหรือมีความผันผวนน้อยกว่า จากนั้นจะนำผลตอบแทน (MRAR) มาจัดอันดับ (Ranking) เพื่อให้นักลงทุนได้เห็นภาพง่ายขึ้นลองดูตัวอย่างข้างล่าง
จากตัวอย่างเราสามารถสรุปวิธีคิดแต่ละขั้นตอนได้ดังนี้
- หา Total Return รายเดือนของกองทุน
- หา Morningstar Return รายเดือนของกองทุน โดยนำ Total Return มาหักออกจาก Risk Free Rate
- หา MRAR โดยนำ Morningstar Return มาปรับความเสี่ยงด้วยการใช้ทฤษฎีอรรถประโยชน์
หลังจากนั้นคำนวณ Percentile Ranks ใน Categoryนั้นๆ ทุกค่าคะแนนดังนี้
หลังจากที่เราเข้าใจวิธีการหาค่า MRAR แล้วเรามาดูเกณฑ์การจัดอันดับตามแผนภาพข้างล่างกันคะ
โดยกองทุนที่ได้ค่า MRAR มากที่สุด 10% แรกในกลุ่ม จะได้รับ 5 ดาว, 22.5% ถัดไปได้รับ 4 ดาว, 35% ถัดไปได้รับ 3 ดาว , 22.5% ถัดไปได้รับ 2 ดาว และ 10% ที่เหลือในกลุ่มได้รับ 1 ดาวตามลำดับ
ดังนั้นในแต่ละกลุ่มมอร์นิ่งสตาร์อาจจะมี 5 ดาวมากกว่า 1 กองทุนก็เป็นได้ ยกตัวอย่าง ในกลุ่มกองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ มีกองทุนที่ได้ 5 ดาว ทั้งหมด 11 กอง (จากกองทุนทั้งหมดในกลุ่ม 181 กอง) จึงไม่ต้องแปลกใจหากหลากหลาย บลจ จะออกมาโปรโมทว่ากองทุนได้ 5 ดาว ที่สำคัญ Morningstar Rating มีการคำนวณใหม่ทุกสิ้นเดือน ดังนั้น นักลงทุนควรสังเกตด้วยว่า แต่ละกองทุนที่ได้ดาวนั้น เป็นของเดือนไหน และอยู่ใน Morningstar Category กลุ่มใด
นอกจากนี้หากกองทุนนั้นมีอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป Morningstar มีการให้น้ำหนักดังนี้
สุดท้ายนี้ Morningstar Rating นั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการเลือกซื้อกองทุน โดยวิธีการวัดผลเป็นการใช้ข้อมูลในอดีตแล้วมาจัดอันดับ รวมถึงเป็นการคำนวณโดยใช้ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative) มาคำนวณเท่านั้น ในการเลือกซื้อกองทุนเพื่อการลงทุนนั้นผู้ลงทุนควรนำข้อมูลเชิงคุณภาพ (Qualitative) ในมิติอื่นๆมาร่วมตัดสินใจด้วย เช่น ประเภทของกองทุน สไตล์การลงทุน พอร์ตโฟลิโอ และ ค่าใช้จ่ายของกองทุน เพื่อให้การตัดสินใจในการลงทุนมีประสิทธิภาพมากที่สุดกันคะ