Awards Winner - RMF Equity

Morningstar Awards 2016 กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ประเภทตราสารแห่งทุน (Retirement Mutual Fund – Equity) ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ

Facebook Twitter LinkedIn

Awards Logo

         

          นับเป็นครั้งแรกสำหรับ กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ที่ได้รับรางวัล Morningstar Awardscกองทุนยอดเยี่ยมประเภทกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ประเภทตราสารแห่งทุน โดยกองทุนมีความโดดเด่นด้านการควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่ม รวมทั้งยังสามารถทำผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีได้สูงถึง 13.08% ต่อปี (สูงที่สุดในกลุ่ม) อีกทั้งยังสามารถรักษาระดับ Morningstar Rating 5 ดาวได้นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา

ส่วนกองทุนจะมีจุดเด่นหรือมีมุมมองต่อการลงทุนในปี นี้อย่างไรนั้น เชิญติดตามได้จาด บทสัมภาษณ์ต่อไปนี้ครับ

คำถาม: กองทุน Bualuang Equity RMF เหมาะกับนักลงทุนประเภทไหน

คำตอบ: การลงทุนในกองทุน RMF เป็นการลงทุนเพื่อออมในยามเกษียณอย่างแท้จริง เงินที่นำมาลงทุนจะต้องมั่นใจว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนั้น และนักลงทุนต้องมีรายได้สม่ำเสมอ เนื่องจากนักลงทุนต้องลงทุนต่อเนื่องจนถึงอายุ 55 ปี จึงจะขายคืนหน่วยลงทุนได้ (เว้นได้ 1 ปี แต่ห้ามเกิน 2 ปี) และไม่มีการจ่ายปันผลใดๆ

สำหรับกองทุน Bualuang Equity RMF เน้นการลงทุนในหุ้น ดังนั้น นักลงทุนจะต้องรับความเสี่ยงของความผันผวนจากการลงทุนในหุ้นได้ด้วย

คำถาม: สไตล์การลงทุนที่สำคัญของกองทุน Bualuang Equity RMF ที่นักลงทุนควรทราบและทำความเข้าใจก่อนลงทุนมีอะไรบ้าง

คำตอบ: สไตล์การลงทุนในหุ้นของค่ายเรานั้นไม่เคยเปลี่ยน เราเน้นความต่อเนื่องของการเลือก Theme ในการลงทุนระยะยาว โดยเราพิจารณาและคาดการณ์ปัจจัยแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสังคมหรือโครงสร้างเศรษฐกิจในอนาคตช่วง 3-5 ปี ขึ้นไป แล้วทำความเข้าใจในรายตัวหุ้นเพื่อให้มั่นใจว่าได้ลงทุนไปกับบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ดี มีธุรกิจที่สอดคล้องไปกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระยะยาว มีความโปร่งใส  และให้น้ำหนักไปกับธุรกิจที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ไม่ซื้อขายระยะสั้นแบบเก็งกำไรไปกับธุรกิจที่หวือหวาแค่ชั่วคราว

นอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับ บลจ.บัวหลวง คือ เมื่อเจอหุ้นที่เชื่อว่าเป็น Winner Stocks แล้ว เราจะใส่น้ำหนักการลงทุนกับหุ้นตัวนั้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงจะเห็นว่าแม้จะไม่ใช่กองทุน เปิดบัวหลวงทศพล แต่กองทุนหุ้นของ บลจ.บัวหลวง ก็กระจายการลงทุนในหุ้นจำนวนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหลายๆ กองทุนของ บลจ.อื่น เพื่อให้ผู้ลงทุนได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากหุ้นที่เราเลือกสรรมาแล้วให้มากที่สุด อย่างไรก็ดี เรามั่นใจว่ามีการกระจายความการลงทุนอย่างพอเหมาะแล้ว ไม่น้อยและไม่มากจนเกินไป นักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าสไตล์การลงทุนของ บลจ.บัวหลวง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลหรือผู้บริหารกองทุน

คำถาม: กรุณายกตัวอย่างการลงทุน (หุ้นและหมวดอุตสาหกรรม) ที่โดดเด่นจนทำให้กองทุนประสบความสำเร็จในช่วงปี 2558 ที่ผ่านมา และในปัจจุบันนี้ท่านมีมุมมองต่อการลงทุนดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ อย่างไร

คำตอบ: เนื่องจาก Theme การลงทุน เป็นมุมมองการลงทุนระยะยาว ทำให้ Sectors ที่เราเลือกลงทุนส่วนใหญ่จะมีแนวโน้มเติบโตได้ในอีก 3-5 ปี ไม่ใช่แค่ช่วงสั้นๆ ดังนั้น เรายังเน้นการลงทุนในกลุ่ม Healthcare, Commerce, Transportation, Insurance และ Construction material เนื่องจากเราเชื่อว่าเป็น Sectors ที่ได้ประโยชน์จาก Theme การลงทุนระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 และการขยายตัวของอาเซียน รวมทั้งการที่ไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งที่ผ่านมา Performance ของ Sector เหล่านี้ ก็ดีกว่า SET โดยเปรียบเทียบ ซึ่งทำให้ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของ บลจ.บัวหลวงค่อนข้างดี

คำถาม: ท่านคาดการณ์ว่าในปี 2559 นี้สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยจะเป็นอย่างไร

คำตอบ: แนวทางของ บลจ.บัวหลวง ไม่เคยคาดการณ์ดัชนี รามองว่าดัชนีหุ้นเป็นเพียงปรอทวัดอุณหภูมิของผู้เล่นในตลาดเท่านั้น เราซื้อขายกิจการ ไม่ได้ซื้อขายดัชนี เราจึงเน้นไปที่คุณภาพในการเลือกหุ้นเป็นรายตัวมากกว่า เพราะเชื่อว่าในทุกๆ ช่วงจะมีหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าผลตอบแทนของตลาดอยู่เสมอ

สำหรับปีนี้ เราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นจากที่ลงมามากในช่วง 1-2 ปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในประเทศ ราคาน้ำมันลง และความไม่มั่งคงทางการเมือง เป็นต้น

ในแง่ Valuation ราคาหุ้นเรายังถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาค สะท้อนได้จาก Valuation gap ของตลาด DM และ EM ที่ลดลง ทำให้ตลาด EM เริ่มเป็นที่น่าสนใจ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้น TIP Markets ทั้งไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ สามารถยืนระดับ หรือปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ซึ่งนับว่าแข็งแกร่งกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นของประเทศขนาดใหญ่ ทำให้โมเมนตัมการฟื้นตัวน่าจะส่งผลต่อเนื่องได้อีกพักใหญ่ๆ ส่งผลให้หุ้นไทยทยอยปรับขึ้นได้แบบ Sideways Up โดยมีความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินหยวน การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนมากกว่าที่คาด การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ และ Geopolitical risks

สำหรับความเสี่ยงในประเทศ ได้แก่ ความล่าช้าในการดำเนินนโยบายรัฐบาลและโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

คำถาม: ปัจจัยเสี่ยงทีนักลงทุนควรทราบก่อนลงทุนในกองทุน Bualuang Equity RMF มีอะไรบ้าง

คำตอบ: ความเสี่ยงของการลงทุนใน Bualuang Equity RMF ก็คงจะเหมือนกับกองทุนหุ้นทั่วไป คือมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาตลาด ซึ่งสิ่งที่ผู้จัดการกองทุนจะทำได้ในการลดความเสี่ยงนี้ก็คือการเลือกลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีด้วยราคาที่เหมาะสม แม้ในระยะสั้นตลาดหุ้นจะมีความผันผวน แต่ในระยะยาววงจรเศรษฐกิจย่อมมีขึ้นและลง ราคาหุ้นก็จะสะท้อนพื้นฐานของมัน ถ้าธุรกิจยังไปได้ดีต่อเนื่อง ย่อมทำให้เงินลงทุนของนักลงทุนงอกเงยตามไปด้วย

คำถาม: สิ่งที่นักลงทุนสามารถคาดหวังได้จากการลงทุนในกองทุนของท่านคืออะไร

คำตอบ: ด้วยแนวทางการคัดสรรหุ้นลงทุนของเราที่เน้นหุ้น Growth stocks หรือหุ้นที่มีพื้นฐานดีและมีศักยภาพในการเติบโตภายใต้ Theme การลงทุนที่ชัดเจนมาเป็นแนวทางการบริหารกองทุน ถ้าหากนักลงทุนเชื่อมั่นในปรัชญาการลงทุนของเรา ประกอบกับมีความอดทนในการรอคอย สิ่งที่เขาจะได้รับก็คือ “ผลตอบแทนจากการลงทุนที่คุ้มค่าและมีความสม่ำเสมอในระยะยาว” และสิ่งที่พิเศษอีกอย่างสำหรับกองทุน Bualuang Equity RMF นั้นก็คือ เงินออมของท่านจะถูกนำไปลงทุนทบต้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน หรือเกิด Power of compounding return (ถ้าท่านไม่ได้โยกเปลี่ยนไปลงทุนกอง RMF สินทรัพย์ประเภทอื่น) เพราะกองทุนไม่มีการจ่ายปันผล เรียกว่าเป็นการให้เงินทำงานอย่างเต็มที่

คำถาม: ท่านมีคำแนะนำต่อผู้ลงทุนที่กำลังสนใจลงทุนเพื่อการเกษียณอย่างไร

คำตอบ: การวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณหรือในช่วงที่เกษียณแล้วต้องมีการประมาณรายได้ รายจ่าย อายุหลังเกษียณ ฯลฯ ต้องมีการกระจายการลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่แต่ละคนรับได้ และไม่ควรลงทุนแต่กับเงินฝากธนาคารอย่างเดียวเพราะผลตอบแทนที่ได้รับมักจะน้อยกว่าเงินเฟ้อ

สิ่งที่เราอยากจะแนะนำเพิ่มขึ้นจากหลักการพื้นฐานก็คือ เริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้ (ออมก่อนรวยกว่า) และแม้จะเป็นการลงทุนระยะยาว แต่ผู้ที่ลงทุนในกองทุน RMF ก็สามารถปรับเปลี่ยนประเภทสินทรัพย์ที่ลงทุนโดยโยกย้ายเงินไปลงทุนในกองทุน RMF ประเภทอื่นๆ ได้ ดังนั้น จึงควรติดตามภาวะของตลาดสินทรัพย์ต่างๆ เป็นระยะๆ บ้าง เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้นตามวัฏจักรเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ทุกคนควรมีการวางแผนเผื่อไว้ให้มาก เผื่อไว้หลายๆ กรณี บางท่านอาจจะวางแผนการเงินโดยสมมติว่าตัวเองจะมีลูก 2 คน และจะมีอายุยืนได้ถึง 80 ปี แต่ถ้าท่านอายุยืนเป็น 90 ปี 100 ปีล่ะ และในอนาคตที่ไกลขนาดนั้นท่านอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้คาดคิดเพิ่มขึ้นมาได้ไม่รู้กี่อย่าง ค่ารักษาโรคภัยไข้เจ็บก็อาจจะพุ่งสูงขึ้นไปได้มากกว่าเงินเฟ้อหลายเท่า สิ่งที่ดีที่สุดคือการไม่ประมาทในการใช้ชีวิต และวางแผนเตรียมพร้อมในการรับมือ

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Kittikun Tanaratpattanakit

Kittikun Tanaratpattanakit  Senior Research Analyst