อนาคตของอุตสาหกรรมกองทุนรวม

ช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ กองทุนรวมนับเป็นผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่อนาคตจะเป็นอย่างไรนั้นลองมาติดตามกันครับ

Facebook Twitter LinkedIn

            เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ทาง Morningstar, Inc. ได้จัดงานประชุมสัมมนาใหญ่ประจำปีในชื่อว่า “Morningstar Investment Conference 2016” ที่เมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยหนึ่งในหัวข้องานสัมมนาที่สำคัญและผมเห็นว่าเป็นประโยชน์เลยอยากจะนำมาเล่าให้กับนักลงทุนฟังนั้นก็คือ เรื่องเกี่ยวกับอนาคตของอตุสาหกรรมกองทุนโดยผ่านมุมมองของ Mr. Bill McNabb, CEO ของ Vanguard Fund  

ก่อนอื่นนักลงทุนในบ้านเราส่วนใหญ่อาจจะยังงงๆและไม่ค่อยคุ้นชื่อของทั้งกองทุน Vanguard และตัวของ Mr. Bill McNabb ผู้เป็น CEO กันมากสักเท่าไร เนื่องจากยังไม่มีกองทุน FIF ของไทยเราไปลงทุนกองทุนของ Vanguard กันมากนัก ปัจจุบัน Vanguard เป็นบริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยเน้นสไตล์การบริหารกองทุนแบบ Passive Fund หรือ Index Fund เป็นหลักและมีการเก็บค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆที่ถูกมาก โดยบางกองทุนเก็บเพียง 0.05% และเมื่อไหร่ที่ Mr. Bill McNabb ออกมาให้สัมภาษณ์หรือมีมุมมองต่ออุตสาหกรรมกองทุนรวมก็มักจะได้ความสนใจอยู่เสมอๆ

ถึงอย่างไรก็ตามการที่เป็น บลจ. ที่ใหญ่และประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกก็ไม่ได้หมายความว่าความคิดและมุมมองของเขาจะต้องถูกเสมอไป แต่ถ้าจะให้เห็นแย้ง Mr. Bill McNabb ในเรื่องของอุตสาหกรรมกองทุนก็เป็นเรื่องลำบากและคงเปรียบเสมือนมีความเห็นขัดแย้งกับ Warren Buffet ในเรื่องของการลงทุนนั่นเอง

โดยในที่นี้ผมขอสรุปเนื้อหาบางส่วนที่ Mr. Bill McNabb มีความเห็นต่ออนาคตของอุตสาหกรรมกองทุนรวมเป็นข้อๆดังนี้

  • More Advice, Less Cost – ความสำคัญของการให้คำปรึกษาทางการลงทุนและค่าบริการที่ถูกลง โดยทาง Vanguard เชื่อว่าระบบการให้คำปรึกษาแบบอัตโนมัติ หรือรู้จักกันในชื่อว่า  “robo-advisers” นั้นจะเข้ามาทดแทนการให้คำปรึกษาแบบดั้งเดิมผ่านซึ่งทำผ่านที่ปรึกษาทางการเงิน หรือ financial-advisers โดยเฉพาะผู้ที่มีเงินลงทุนระหว่าง 50,000 ถึง 200,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งนั้นจะทำให้นักลงทุนจ่ายค่าที่ปรึกษาได้ถูกลงกว่าปัจจุบันที่เป็นอยู่ และโดยเฉพาะในส่วนของบริการที่ถูกทดแทนโดย robo-advisers ทำให้ในที่สุดที่ปรึกษาทางการเงิน ก็ต้องปรับตัวโดยเน้นให้บริการที่มากขึ้นและต้องเน้นให้บริการที่มีมูลค่าเหนือกว่าสิ่งที่ robo-advisers สามารถทำได้ ทั้งนี้ Mr. Bill McNabb ยังเสริมด้วยว่า ค่าใช้จ่ายต่างๆที่กองทุนเรียกเก็บก็มีแนวโน้มที่จะถูกลงในอนาคตด้วยเช่นกัน
  • Managing Expectations – การสื่อสารและทำความเข้าใจต่อผลตอบแทนที่นักลงทุนคาดหวังจากการลงทุนคือหนึ่งในหัวใจของการให้บริการ โดยสิ่งที่ Vanguard ทำนั้นก็คือสไตล์การบริหารแบบที่ค่อนข้างจะ conservative โดยเฉพาะในการโฆษณาทำ marketing ต่างๆ และอีกสิ่งหนึ่งที่มักจะทำบ่อยๆก็คือ การปิดรับคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มในกองทุนที่กำลังได้รับความนิยมเพื่อเป็นการป้องกันการวิ่งไล่ตามผลตอบแทน (chasing performance) ของนักลงทุน ซึ่งตรงจุดนี้ Mr. Bill McNabb ยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า การสื่อสารตรงจุดนี้คือสิ่งสำคัญที่ที่ปรึกษาทางการเงินควรนำไปปฎิบัติเมื่อพูดคุยกับนักลงทุน โดย Vanguard ได้ประมาณการผลตอบแทนในอนาคตอีก 10ปีของหุ้นไว้ที่ 6-7% ขณะที่ของตราสารหนี้อยู่ที่ 2%
  • Less Is More – โดย Mr. Bill McNabb มีความเห็นว่า นักลงทุนส่วนใหญ่นั้นชอบการลงทุนแบบที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน และไม่ต้องมีขั้นตอนอะไรมากมาย ซึ่งจะเห็นตัวอย่างได้จากการเติบโตของกองทุนรวมประเภท Target Date Fund (กองทุนมีการลงทุนเพื่อให้เหมาะกับปีเป้าหมายเกษียณที่ได้ตั้งไว้ โดยสัดส่วนการลงทุนในส่วนของสินทรัพย์เสี่ยงจะลดลงไปเรื่อยๆเมื่อเข้าใกล้ถึงปีที่เป็นเป้าหมายเกษียณ) ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและสามารถเข้ามาทดแทนการลงทุนแบบดังเดิมในส่วนของการลงทุนเพื่อการเกษียณ หรือ บัญชี 401(k) ในอเมริกาไปแล้วซึ่งปัจจุบันนักลงทุนส่วนใหญ่นั้นได้เลือก Target Date Fund ให้เป็นแผนการลงทุนหลัก (default plan)  ทั้งนี้ Mr. Bill McNabb มองว่า บลจ. ที่สามารถทำเรื่องของการลงทุนให้เป็นเรื่องง่ายและสื่อสารข้อมูลให้ผู้ลงทุนเข้าใจได้แบบง่ายไม่ว่าจะผ่านช่องทางใดๆก็ตาม (ตัวอย่างเช่น  แอปพลิเคชั่นบนมือถือ) ได้นั้นจะเป็น บลจ. ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางใจจากผู้ลงทุนในอนาคต (upcoming generation) มากที่สุด และรวมไปถึงทั้ง financial-advisers ด้วยเช่นกัน โดยผู้จะประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องทำให้ลูกค้านั้นมีชีวิตทางการลงทุนที่ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้นโดยต้องนำมาประกอบคู่ไปกับความรู้และประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาที่ดีด้วยเช่นกัน

ส่วนเรื่องรายละเอียดของ Target Date Fund นั้นขอติดไว้ก่อนนะครับ แต่รับรองว่าได้มีโอกาสพูดถึงอย่างแน่นนอนเนื่องจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนเป็นอย่างยิ่ง

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Kittikun Tanaratpattanakit

Kittikun Tanaratpattanakit  Senior Research Analyst