Awards Winner – Equity Large Cap

Morningstar Awards 2019 กองทุนรวมหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large Cap) ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เซ็ท 50 มาดูบทสัมภาษณ์ทีมผู้จัดการกองทุนกันเลยค่ะ

Morningstar 27/03/2562
Facebook Twitter LinkedIn

Awd 2019 logo red

นับเป็นครั้งแรกของ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เซ็ท 50 จาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ที่สามารถคว้ารางวัลกองทุนยอดเยี่ยมในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ไปได้ โดยกองทุนให้ผลตอบแทนอยู่ในอันดับ 1 ในปี 2018 ซึ่งเกิดจากคำนึงถึงกระบวนการลงทุน ความมีวินัย รวมถึงการประเมินสถานการณ์ และสภาวะการลงทุนต่าง ๆ เพื่อให้การลงทุนมีความผันผวนน้อย และกองทุนยังมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมออีกด้วย

ในวันนี้มาทำความรู้จัก กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เซ็ท 50 จากบทสัมภาษณ์ทีมผู้จัดการกองทุนกันค่ะ

คำถาม: ท่านคิดว่าอะไรคือปัจจัยที่ส่งผลให้กองทุนประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมา และอะไรเป็นปัจจัยที่ท้าทายต่อผลการดำเนินงานของกองทุน

คำตอบ: ปัจจัยที่ส่งผลให้กองทุนประสบความสำเร็จ มาจากกระบวนการลงทุนที่เหมาะสม และความมีวินัยในการลงทุนตามระบบที่วางไว้ โดยให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุดและสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอให้ลูกค้าพึงพอใจสูงสุด โดยกระบวนการลงทุนจะต้องผ่านการทดสอบและประเมินถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์หรือสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ผลของการลงทุนมีความผันผวนน้อยที่สุด ซึ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้กองทุนประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยท้าทาย คือความผันผวนของตลาดที่มีสาเหตุมาจากทั้งภายในและภายนอกประเทศเข้ามากระทบต่อผลการดำเนินงานของกองทุน

คำถาม: ท่านมีมุมมองต่อตลาดหุ้นอย่างไรในปี 2019 และมีกลยุทธ์ในการลงทุนอย่างไรท่ามกลางภาวะตลาดผันผวน

คำตอบ: จากแนวโน้มปัจจัยในเรื่องนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย คาดว่าจะยังคงไม่เร่งรีบในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดย Fed ระบุว่าจะรอประเมินพัฒนาการทางเศรษฐกิจ ตลาดการเงิน รวมถึงอัตราเงินเฟื้อและข้อมูลทางเศรษฐกิจ ก่อนที่จะตัดสินใจปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐอ่อนค่าและมีเม็ดเงินบางส่วนไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ ประกอบกับผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่มีการเจรจากันอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่ทั้งสองฝ่ายก็มีท่าทีที่ประณีประนอมมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะตกลงร่วมกันได้ รวมทั้งประเทศไทยได้ประกาศจัดการเลือกตั้ง ทำให้แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นมีความชัดเจนและสดใสมากขึ้น อย่างไรก็ตามผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ คาดว่ามีแนวโน้มที่จะขยายตัวไม่สูงนัก อยู่ประมาณ 4-6 เปอร์เซ็นต์ ในปีนี้ ทำให้การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยอาจมีจำกัด ด้วยเหตุนี้กลยุทธ์การลงทุนของ MFC จึงเน้นการคัดเลือกหุ้นที่อิงกับรายได้ในประเทศมากกว่ารายได้จากต่างประเทศ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และเน้นเลือกหุ้นที่รายได้มีความผันผวนต่ำต่อสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง

คำถาม: ท่านคิดว่าสถานการณ์/ปัจจัยภายนอกเช่น สงครามการค้าสหรัฐอเมริกา-จีน การแกว่งตัวของราคาน้ำมัน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ส่งผลต่อการตัดสินใจในการลงทุนตลาดหุ้นไทยอย่างไรบ้าง

คำตอบ: จากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น สงครามการค้าสหรัฐฯกับจีน, ราคาน้ำมัน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ล้วนส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยและการตัดสินใจในการลงทุนทั้งสิ้น ทำให้ตลาดมีความผันผวนสูงขึ้นและคาดการณ์แนวโน้มของตลาดได้ยากขึ้น ซึ่งทาง MFC ได้มีการติดตามและประเมินสถานการณ์เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง โดยได้ให้น้ำหนักกับปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนเป็นหลัก เพราะถ้าสามารถตกลงกันได้ก็จะทำให้เศรษฐกิจในเอเชียรวมทั้งไทยได้รับผลดี โดยปัจจัยต่าง ๆ ข้างต้นทางบริษัทได้ทำการวิเคราะห์และวางแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งใช้กลยุทธ์การลงทุนเน้นคัดเลือกหุ้นที่รายได้มีความผันผวนต่ำต่อการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบ

คำถาม: ท่านคิดว่าอะไรคือจุดแข็งของทีมงานที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของกองทุน

คำตอบ: จุดแข็งของทีมงานที่ส่งผลต่อความสำเร็จของกองทุนคือ มีการร่วมมือกันทำงานเป็นทีมผ่านกระบวนการลงทุนที่เป็นระบบอย่างชัดเจน ซึ่งกระบวนการลงทุนที่นำมาใช้ต้องผ่านการทดสอบเพื่อให้ได้กระบวนการตามที่ต้องการบนความเสี่ยงที่ยอมรับได้ พร้อมทั้งเน้นให้มีการปฏิบัติตามแผนการลงทุนที่วางไว้อย่างมีวินัยและสม่ำเสมอ รวมถึงมีการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ได้มีการนำเทคโนโลยี เข้ามาช่วยจัดการข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจลงทุนให้เกิดความแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนที่ดี

คำถาม: ท่านมีคำแนะนำอย่างไรบ้างสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนนี้

คำตอบ: กองทุนนี้เหมาะสมกับนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั้วไป และสามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนไปลงทุน ซึ่งอาจจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหรือลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุน และทำให้ขาดทุนได้ โดยกองทุนลงทุนในหุ้นไทยที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง ทั้งนี้กองทุน อีกทั้งกองทุนนี้มีนโยบายจ่ายเงินปันผลตามผลการดำเนินงาน โดยมีประวัติการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอทุกปี นักลงทุนที่สนใจกองทุนนี้สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหนังสือชี้ชวนกองทุนจาก website ของ MFC (www.mfcfund.com) หรือขอคำปรึกษาการลงทุนจากทีมงานที่ปรึกษาการลงทุนของ MFC ได้

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar