ผลตอบแทนเฉลี่ยกองทุนรวมตราสารทุน

หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในประเทศไทยและในบางประเทศเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น มาดูกันว่าส่งผลต่อผลตอบแทนกองทุนรวมอย่างไรบ้าง

Morningstar 21/05/2563
Facebook Twitter LinkedIn

ในปีนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์ Covid-19 เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบกับการลงทุนอย่างมาก เห็นได้จากในช่วงท้ายของเดือนมีนาคมที่จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยที่เร่งตัวขึ้นไปสู่ที่ระดับมากกว่า 100 คน ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ผันผวนอย่างมากและมีการปรับตัวลงอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ตามในรอบเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้อาจเรียกได้ว่าแนวโน้มของสถานการณ์ Covid-19 ในประเทศไทยเริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลงรายวัน ทำให้ภาพรวมการลงทุนมีแนวโน้มที่ทรงตัวและเริ่มปรับตัวขึ้นได้ โดย SET Index ปรับตัวขึ้นไปที่แตะที่ระดับ 1,301.66 จุด หรือเพิ่มขึ้น 15.6% จากเดือนมีนาคม จากกราฟด้านล่างจะเห็นได้ว่าในช่วงเดือนเมษายนการเปลี่ยนแปลงของดัชนี SET Index มีความผันผวนน้อยลงจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ภาพรวมเดือนมีนาคมตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวขึ้น-ลงที่รุนแรงจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มหลักสิบถึงหลักร้อยรายวัน

2020 05 21 1202 Thai CV 19 case SETIndex

ที่มา: กรมควบคุมโรค, www.settrade.com

จากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทำให้กองทุนรวมที่เน้นลงทุนหุ้นไทยได้ประโยชน์อย่างชัดเจน โดยเป็นกลุ่มกองทุนที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดของเดือนเมษายน นำโดยกลุ่ม Equity Small/Mid-Cap 17.6% และ Equity Large-Cap 14.5% จากที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบในเดือนมีนาคมที่ -17.8% และ -15.5% ตามลำดับ

นอกจากกองทุนหุ้นไทยแล้วกองทุนหุ้นต่างประเทศก็มีผลตอบแทนเฉลี่ยฟื้นตัวในเดือนเมษายนเช่นกัน นำโดยกลุ่มกองทุนหุ้นสหรัฐฯ (US Equity) 12.9% ตามมาด้วยกลุ่ม Global Technology 12.6% ในขณะที่กองทุนหุ้นจีนอาจปรับตัวขึ้นในเดือนเมษายนน้อยกว่ากลุ่มอื่น (5.6%) จากที่ปรับตัวลงไม่รุนแรงนักในเดือนมีนาคม (-6.3%) โดยรวมกองทุนหุ้นมีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ฟื้นตัวจากเดือนมีนาคมทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ยุโรป หรือเอเชีย ซึ่งเป็นภาพที่ตรงข้ามกับเดือนมีนาคมที่เป็นมีผลตอบแทนติดลบ อย่างไรก็ตามหากดูที่ผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ต้นปี (YTD) และ 1 ปี (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2020) จะพบว่ามีเพียงกองทุนกลุ่ม Global Technology และ Global Health Care ที่ยังมีผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวก แสดงให้เห็นว่าทั้งสองกลุ่มธุรกิจมีผลกระทบที่จำกัดหรืออาจได้ประโยชน์จากสถานการณ์ Covid-19 เมื่อเทียบกับภาคธุรกิจอื่น ๆ ที่ต้องหยุดชะงัก

2020 05 21 1207 MCat TH 15 May

ที่มา: Morningstar Direct, ข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2020

แม้ปัจจุบันสถานการณ์ Covid-19 ในประเทศไทยและหลายประเทศจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นแล้ว แต่นักลงทุนยังควรให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างมีวินัยที่อิงตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้เป็นสำคัญและศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง รวมทั้งอย่าลืมดูแลสุขภาพ รักษาการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อให้ประเทศไทยสามารถผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้โดยเร็ว

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar