Awards Winner – Retirement Mutual Fund – Equity

Morningstar Awards 2021 กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ประเภทตราสารแห่งทุน (Retirement Mutual Fund – Equity) ได้แก่ กองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ

Morningstar 31/03/2564
Facebook Twitter LinkedIn

FA 2021

เรามาทำความรู้จักกองทุนนี้ให้มากขึ้นผ่านบทสัมภาษณ์กันเลยค่ะ

คำถาม ท่านคิดว่าปัจจัยใดที่ทำให้กองทุนประสบความสำเร็จท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดในปี 2020

คำตอบ  สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิต-19 ในปีที่ผ่านมาทำให้นักกลงทุนมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจจนเกินการเทขายสินทรัพย์หลากหลายประเภททั่วโลก บรรยากาศการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาจึงมีความผันผวนค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรม Healthcare ถือว่าได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อยกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั้งนี้เนื่องมาจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสังคมผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงความต้องการทางการแพทย์ที่เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก

กองทุนยังคงยึดหลักการลงทุนที่เน้นคัดเลือกหุ้นที่อยู่ในอันดับต้นๆจากแต่ละทีมนักวิเคราะห์และเฟ้นหาหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ทั้งนี้ ยังมีการกระจายการลงทุนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม และหลายภูมิภาค โดยไม่จำกัดประเภทหุ้น (หุ้นเติบโตและหุ้นมูลค่า) หรือสไตล์การลงทุน นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับบริษัทที่มีแผนธุรกิจโดดเด่น บริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรชัดเจน ทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่ง โดยพอร์ตการลงทุนจะเน้นการลงทุนใน 4 ธีมหลัก (Innovation, Demographics, EM penetration, M&A) ที่เป็นธีมการลงทุนระยะยาว ทั้งนี้ กองทุนไม่ได้เปลี่ยนพอร์ตการลงทุนมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อน COVID-19 การยึดหลักการลงทุนที่กล่าวมานี้ ทำให้กองทุนสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในขณะที่ตลาดมีความผันผวนสูงได้

คำถาม ท่านคิดว่ากองทุนของท่านมีความโดดเด่นและแตกต่างจากกองทุนประเภท healthcare กองอื่นอย่างไรบ้าง

คำตอบ  ทีมงานบริหารกองทุน JPM Global Healthcare มีความเชี่ยวชาญในกลุ่มธุรกิจ Healthcare ด้วยประสบการณ์เฉลี่ยกว่า 22 ปี กระจายอยู่ในภูมิภาคต่างๆที่สำคัญกับธุรกิจ Healthcare ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ และญี่ปุ่น ทีมนักวิเคราะห์ประกอบด้วยบุคคลที่มีความชำนาญเฉพาะทาง รวมถึงนักวิเคราะห์ที่มีความเชี่ยวชาญในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม Healthcare เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้กองทุนประสบความสำเร็จ โดยกองทุนเน้นการคัดเลือกหุ้นในกลุ่มสุขภาพที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยปัจจัยบวกของสังคมวัยสูงอายุทั่วโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น อาทิ กลุ่มเวขภัณฑ์ เทคโนโลยีชีวภาพ บริการด้านสุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ โดยจะเน้นการลงทุนใน 4 ธีมหลัก (Innovation, Demographics, EM penetration, M&A) ด้วยกลยุทธ์ Bottom-up ที่ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์มูลค่าหุ้น วิเคราะห์หามูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) และการเติบโตของผลกำไรบริษัทในระยะยาว การวิเคราะห์กระแสเงินสด ความเป็นไปได้ในการถูกซื้อหรือควบรวมกิจการ (M&A Potential) นอกจากนี้ทีมผู้จัดการกองทุนหลักเชื่อว่าการลงทุนในบริษัทที่มีนวัตกรรมในการรักษาและเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี จะเป็นกลุ่มที่เป็นผู้ชนะอย่างแท้จริงในอนาคต

คำถาม ท่านคิดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จะส่งผลต่อผลการดำเนินงานของกองทุนของท่านในปีนี้หรือไม่ อย่างไร

คำตอบ  การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มHealthcare มากยิ่งขึ้น หนึ่งในสาเหตุหลักๆน่าจะมาจากการที่ Healthcare โดนปรับลด EPS ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับ sector อื่นๆ อีกทั้งกองทุนได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากการถือครองหุ้นที่ลดการสัมผัส และไม่ต้องเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เช่น Teladoc ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการรักษาทางไกลในสหรัฐฯ โดยกองทุนได้เข้าไปลงทุนในช่วง 4-5 ปีที่แล้ว หรือ Dexcom ที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์วัดระดับน้าตาลกลูโคสสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังมี iRhythem บริษัทที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิเคราะห์การเต้นของหัวใจ เป็นต้น โดยกองทุนหลักสามารถให้ผลตอบแทนชนะดัชนีชี้วัดทุกช่วงเวลา โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 13.26% ต่อปีในช่วง 5 ปีล่าสุด (ที่มา: J.P. Morgan 31 ม.ค. 2564)

คำถาม กองทุนนี้จะมีแนวทางการลงทุนอย่างไรจากมุมมองเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม Healthcare ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆมากขึ้น เช่น biotech

คำตอบ  ผู้จัดการกองทุนหลักมองการลงทุนในกลุ่มสุขภาพยังคงมีความน่าสนใจเนื่องจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ส่วนความกดดันทางด้านราคายาที่จะถูกกระทบในเชิงโครงสร้างมีโอกาสน้อย ส่งผลให้ผู้จัดการกองทุนหลักเลือกลงทุนในบริษัทที่มุ่งเน้นในการพัฒนายาชนิดใหม่ๆมากกว่ายาที่มีขายทั่วไปในปัจจุบัน เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามราคา และยังคงเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ผลการดำเนินงานมีการเติบโตขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ยังมีการกระจายการลงทุนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม และหลายภูมิภาค ซึ่งได้ทำการ Overweight หุ้นกลุ่ม Biotechnology และ Healthcare Services โดยในกลุ่ม Healthcare Services เน้นลงทุนในผู้ประกอบการด้านสถานพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ผู้จัดการกองทุนหลักคาดว่าจะได้ประโยชน์จากโปรแกรมประกันสุขภาพภายใต้การบริหารงานของนายโจ ไบเดน โดย Underweight หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ (Pharmaceuticals) และกลุ่มนักเทคนิคการแพทย์ (Medical Technology) ที่ราคาเกินกว่ามูลค่าที่แท้จริง

คำถาม ท่านมีคำแนะนำอย่างไรบ้างสำหรับนักลงทุนที่สนใจกองทุนตราสารทุนสำหรับการลงทุนเพื่อการเกษียณ

คำตอบ  สำหรับการลงทุนเพื่อการเกษียณนั้น ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนเป็นสำคัญ โดยควรตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้เมื่อพิจารณาถึงระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนสามารถรับได้ ผลตอบแทนคาดหวัง และระยะเวลาในการลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรศึกษาทำความเข้าใจนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุนอย่างละเอียดเพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมเมื่อเทียบกับเป้าหมายการลงทุนของตน โดยกองทุนหุ้นที่เหมาะกับการลงทุนเพื่อการเกษียณนั้น ควรเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในระยะยาวและมีกระจายการลงทุนค่อนข้างมากเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนในระยะสั้น การลงทุนในธีมที่เป็น Mega Trend ต่างๆในปัจจุบันจึงมีความน่าสนใจเนื่องจากเป็นธีมการลงทุนในระยะยาวซึ่งสอดคล้องกับระยะเวลาการลงทุนเพื่อเกษียณ การลงทุนในกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม Healthcare จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar