การประกาศรางวัล Morningstar Fund Awards เป็นการมอบรางวัลสำหรับกองทุนและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น โดยในปีนี้จะมีการจัดงานขึ้นอีกครั้งหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง ซึ่งจะจัดขึ้นที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 22 มีนาคม 2023 เวลา 13.00 น.
โดยรางวัลในปีนี้และเกณฑ์การตัดสินรางวัลมีดังนี้
1. Morningstar Category Awards หรือรางวัลกลุ่มกองทุน 4 รางวัล ได้แก่
- กองทุนหุ้นขนาดใหญ่
- กองทุนหุ้นขนาดกลางและเล็ก
- กองทุนตราสารหนี้ระยะกลางและยาว
- กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น
2. รางวัลกองทุนประหยัดภาษี
- กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพประเภทตราสารแห่งทุน
- กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพประเภทตราสารแห่งหนี้
3. Morningstar Fund House Awards หรือรางวัลบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม
- ประเภทการลงทุนหุ้นภายในประเทศ
- ประเภทการลงทุนตราสารหนี้ภายในประเทศ
เกณฑ์การตัดสิน
ในส่วนของการตัดสินว่ากองทุนใดจะได้รางวัลนั้นประกอบด้วย 2 ส่วนหลักคือผลตอบแทนและความเสี่ยง โดยมีการให้น้ำหนักผลตอบแทนที่ 80% แบ่งออกเป็น 1 ปีที่ 30%, 3 ปีที่ 20%, และ 5 ปีที่ 30% และความเสี่ยงคือ Morningstar Risk แบ่งเป็น 3 ปีที่ 8% และ 5 ปีที่ 12% โดยจะเป็นการนำผลตอบแทนและความเสี่ยงของแต่ละกองทุนเทียบกับกองทุนอื่นในกลุ่มและคำนวณออกมาเป็น percentile rank เพื่อนำไปคูณกับน้ำหนักแต่ละช่วงเพื่อให้ได้รายชื่อกองทุนที่ผ่านการคัดเลือกในส่วนแรก
หลังจากการพิจารณาผลตอบแทนและความเสี่ยงแล้วจะมีการพิจารณาเชิงคุณภาพ เช่น สไตล์การลงทุนที่ชัดเจน การเปิดขายให้นักลงทุนทั่วไป อายุการบริหารงานของผู้จัดการกองทุน เป็นต้น
Morningstar Fund House Awards
รางวัลบริษัทจัดการกองทุนที่แบ่งออกเป็น 2 รางวัลคือ 1) ประเภทการลงทุนหุ้นภายในประเทศ มีเกณฑ์เบื้องต้นคือบลจ.ต้องมีกองทุนในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่และหุ้นขนาดกลางและเล็กรวมกันอย่างน้อย 5 กองทุนโดยมีอายุอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป ขณะที่ 2) ประเภทการลงทุนตราสารหนี้ภายในประเทศต้องมีกองทุนกลุ่ม กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นและกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางและยาวรวมกันอย่างน้อย 3 กองทุนและอายุอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไปเช่นกัน ทั้งนี้การนับจำนวนกองทุนนั้นขึ้นอยู่กับว่าแต่ละกองทุนนั้นมีความเหมือนหรือต่างกันมากน้อยเพียงใด
วิธีการประเมินในรางวัลประเภทนี้จะใช้ Morningstar Risk-Adjusted Return (MRAR) ในช่วง 5 ปีย้อนหลังเพื่อดูว่ากองทุนของแต่ละบลจ.นั้นมี percentile rank ที่ดีเพียงใด (MRAR rank) หากกองทุนใดมีหลายชนิดหน่วยลงทุนก็จะต้องนำแต่ละชนิดหน่วยลงทุนมาหาค่าเฉลี่ยว่ากองทุนนั้น MRAR rank ที่เท่าใด แล้วจึงนำ MRAR rank ของแต่ละกองทุนไปหาค่าเฉลี่ยของบลจ. โดยกองทุนที่มี MRAR rank โดยเฉลี่ยดีที่สุดจะเป็นผู้ชนะรางวัลประเภทนี้
สุดท้ายนี้ขอฝากนักลงทุนติดตามและลุ้นไปพร้อมกันว่าจะมีกองทุนหรือบลจ.ใดได้รับรางวัลประเภทใดบ้างในวันพุธที่ 22 มีนาคมนี้ โดยมอร์นิ่งสตาร์จะประกาศรายชื่อกองทุนและบลจ.ที่ได้รับรางวัล พร้อมกับบทสัมภาษณ์ใน www.morningstarthailand.com เช่นเคยค่ะ