3 สินทรัพย์สำหรับการลงทุน

สินทรัพย์ 3 กลุ่มที่ยังคงให้โอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนระยะยาว

Morningstar 21/08/2566
Facebook Twitter LinkedIn

ตลาดในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2023 แทบจะตรงกันข้ามกับในปีก่อน โดยตลาดหุ้นปรับเข้าสู่ตลาดกระทิงรอบใหม่ แม้ว่าจะมีความกลัวต่อสภาพเศรษฐกิจถดถอยและการปรับลดกำไรของหุ้นในตลาดก็ตาม

Equity index ในหลายๆตลาดเกือบจะทำราคาปรับขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง ทำให้นักลงทุนหลายท่านมักถามตัวเองว่านี่เราพลาดโอกาสลงทุนไปแล้วหรือยัง? ซึ่งเราเชื่อว่ายังมีโอกาสให้ลงทุนได้อีกในรอบของตลาดขาขึ้นครั้งนี้

ทั้งนี้จากผลการศึกษาของ Morningstar Wealth นั้นเชื่อว่าที่ผ่านมาหุ้นกลุ่ม Growth stocks ได้ปรับเพิ่มขึ้นจนสะท้อนเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ทำให้ควรหันไปหาการลงทุนในกลุ่มอื่นๆที่ยังไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น โดยจากการคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยในอีก 10 ปีข้างหน้าของตลาดหุ้นต่างๆจะพบว่ามีสินทรัพย์อยู่ 3 กลุ่มที่น่าสนใจดังนี้

1

1. ตลาดเกิดใหม่

ในแง่ผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นที่ชัดเจนตั้งแต่ในอดีตเลยว่าตลาดหุ้นสหรัฐนั้นโดดเด่นทิ้งห่างตลาดเกิดใหม่มาเป็นทศวรรษ แต่หากเรามองย้อนกลับไปจะพบว่าทุกตลาดนั้นมีวัฏจักร มีขึ้น-มีลง ซึ่งหากวัดมูลค่าผลตอบแทนโดยรวมของตลาดเกิดใหม่เปรียบเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐตามช่วงเวลาที่แตกต่างกันออกไปตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา เราจะพบว่ามีทั้งช่วงเวลาที่สร้างผลงานได้ดีมากและช่วงเวลาที่ผลงานไม่ดีด้วยเช่นกัน ในฐานะนักลงทุนจึงควรเตรียมรับมือไว้ทั้งสองทิศทาง

2

ทั้งนี้ตลาดเกิดใหม่มีประชากรมากถึงกือบ 80% ของประชากรโลก และมีมูลค่า GDP มากถึง 70% ของ GDP โลก แต่กลับมีมูลค่าในตลาดหุ้นเพียงแค่ 11% ของมูลค่าตลาดทุนทั้งหมดในโลก ทำให้ตลาดเกิดใหม่มีความน่าสนใจในการลงทุนระยะยาว เช่น ตลาดหุ้นจีนแม้ยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญอีกมากแต่ในแง่มูลค่าพื้นฐานก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนมาที่ตลาดเกิดใหม่ให้มากขึ้น

2. ยุโรป

ยุโรปก็คล้ายกับตลาดเกิดใหม่ในแง่ผลตอบแทนที่ไม่ดีเท่าตลาดหุ้นสหรัฐ แต่ก็มีรูปแบบของวัฐจักรผลตอบแทนในอดีตที่คล้ายกับตลาดเกิดใหม่ ขณะที่ในอนาคตตลาดยุโรปน่าจะแข็งแกร่งกว่าเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆในประเทศพัฒนาแล้ว เนื่องจากเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจตกต่ำจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนไปเรียบร้อยแล้ว และในแง่มูลค่าหุ้นก็อยู่ในระดับที่น่าสนใจทุน ตัวอย่างเช่น กลุ่มธนาคารในยุโรปซึ่งได้รับผลดีจากดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่สูงขึ้นซึ่งนำไปสู่การปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นได้ หรืออย่างราคาหุ้นในตลาดเยอรมันที่ปรับลงมามากจากภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน จนส่งผลให้มีการส่งพลังงานจากรัสเซียมายังเยอรมันได้ลดลงและเกิดความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ก็ยังถือว่าน่าสนใจเนื่องด้วยการที่สถานะการเงินของบริษัทในตลาดค่อนข้างแข็งแกร่งและมีโอกาสที่จะถูกปรับแนวโน้มกำไรเพิ่มขึ้น นอกจากนี้เยอรมันยังเป็นเสมือนประเทศผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุโรปหรือคิดเป็น 25% ของ GDP ยุโรปอีกด้วย

3. ธนาคารใน US

ตลาดมักมีประสิทธิภาพเสมอหรือราคาหุ้นมักจะสะท้อนสิ่งที่ควรจะเป็น แต่ในบางครั้งอาจเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้นักลงทุนได้ซื้อสินทรัพย์ที่ดีในราคาที่ถูก อย่างเช่นวิกฤตธนาคารในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพราะแม้ว่าจะเกิดวิกฤติล้มละลายกับธนาคารในสหรัฐบางแห่ง แต่ระบบของธนาคารสหรัฐโดยรวมยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ Jamie Dimon หรือ CEO ของ JPMorgan Chase ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดใน US สรุปมุมมองไว้ว่าความเสี่ยงที่เกิดขึ้นของระบบธนาคารนั้นมาจาก

 1. การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วส่งผลเสียต่อสถานะการลงทุนในตราสารของธนาคาร

 2. การมีเงินฝากที่ไม่ได้รับการประกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากแหล่งผู้ฝากที่เป็นบริษัทร่วมทุน

อย่างไรก็ดีปัจจัยพื้นฐานโดยรวมของธนาคารยังคงปกติดี แต่ราคาของหุ้นนั้นกลับปรับลดลงอย่างมาก โดยดัชนีราคาของกลุ่มธนาคารปรับลดลงเกือบ 40% จากจุดสูงสุด และแม้ว่าราคาจะเริ่มปรับดีขึ้นแต่ก็ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ ดังนั้นหุ้นธนาคารที่ถูกเทขายอย่างมากนั้นยังคงมีศักยภาพที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคต

 

 

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar  Morningstar