มูลค่าทองคำคืออะไร?

มูลค่าของทองคำขึ้นอยู่เพียงแค่ว่าคนๆหนึ่งยอมที่จะจ่ายเงินเท่าไรสำหรับมัน

Facebook Twitter LinkedIn

ทองคำ ถือเป็นสินทรัพย์ที่เป็นที่ต้องการสำหรับคนทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะหลักประกันสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันหรือในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ คุณสมบัติอีกอย่างของทองคำที่รู้กันดีก็คือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากสภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากราคาทองคำนั้นไม่ค่อยจะมีความสัมพันธ์กับการขึ้นลงของราคาสินทรัพย์ประเภทอื่นเท่าไรนัก ทองคำจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นักลงทุนควรจะมีไว้ในพอร์ตโฟลิโอเพื่อช่วยให้การจัดสรรการลงทุน (Asset allocation) ของพอร์ตโฟลิโอได้ดียิ่งขึ้น สำหรับการลงทุนในทองคำผ่านกองทุนทองคำนั้น เราคิดว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเพราะเป็นช่องทางการลงทุนที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างต่ำและมีสภาพคล่องสูง

เราสามารถประเมินค่าของบางอย่างที่ไม่มีมูลค่า(ที่แท้จริง)เลยได้อย่างไร?

จริงๆแล้วทองคำนั้นไม่มีมูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic value)

ทองคำไม่สามารถผลิตรายได้หรือสร้างกระแสเงินสดที่สามารถจ่ายให้กับนักลงทุนได้เช่นเดียวกับหุ้น ในขณะเดียวกัน มันก็ไม่สามารถที่จะจ่ายดอกเบี้ยในอัตราคงที่หรือลอยตัวได้เช่นเดียวกับหุ้นกู้  ทฤษฎีทางการเงินได้บอกไว้ว่ามูลค่าที่แท้จริงของหลักทรัพย์ มีค่าเทียบเท่ากับมูลค่าปัจจุบันที่คำนวณจากการคิดลดกระแสเงินสดที่บริษัทผู้ออกหลักทรัพย์จะสามารถหาได้ในอนาคต หากมองย้อนกลับมาที่ทองคำเราจะพบว่าทองคำนั้นไม่สามารถผลิตกระแสเงินสดในอนาคตเพื่อที่จะนำมาคิดลดหามูลค่าที่แท้จริงได้ สุดท้ายแล้วทองคำอาจเรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือในการเก็งกําไรอย่างแท้จริง มูลค่าของทองคำขึ้นอยู่เพียงแค่ว่าคนๆหนึ่งยอมที่จะจ่ายเงินเท่าไรสำหรับมัน

หลักการลงทุนเพื่อเก็งกำไรในทองคำไม่ได้แตกต่างไปจากสินค้าโภคภัณฑ์ชนิดอื่นๆเช่น น้ำมัน หรือ ข้าวสาลี แต่สิ่งที่ทำให้ทองคำแตกต่างจากสินค้าเหล่านั้นคือ การนำเอาทองคำไปใช้จริงๆนั้นมีน้อยมาก ทองคำไม่สามารถให้พลังงานเชื้อเพลิงกับรถยนต์เหมือนน้ำมัน หรือให้สารอาหารโภชนาการเหมือนกับข้าวสาลี  หากนำข้อมูลจากสมาพันธ์ทองคำโลก (World Gold Council) มาอ้างอิงจะพบว่า แค่ 12% ของความต้องการทองคำในปัจจุบัน มาจากการเอาทองคำไปประยุกต์ใช้ เช่น ในอุตสาหกรรมทันตกรรมหรืออิเล็คโทรนิกส์ ส่วนความต้องการหลักประมาณ 59% มาจากอุตสาหกรรมเครื่องประดับโดยเฉพาะในประเทศอินเดียและจีนที่มาแรงในด้านการบริโภคที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ 29% ที่เหลือมาจากความต้องการของนักลงทุน ซึ่งความต้องการทองคำจากฝั่งนักลงทุนเองนั้นก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากในอดีต ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะตัวนักลงทุนเองมีความกังวลเกี่ยวกับค่าของสกุลเงินต่างๆ ประกอบกับการที่นักลงทุนสามารถเข้าถึงการซื้อขายทองคำได้สะดวกขึ้นอันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของกองทุนทองคำในช่วงที่ผ่านมานั่นเอง 

ขณะที่ความต้องการใช้ทองคำเพื่ออุตสาหกรรมและการค้าดูจะเป็นไปตามวงจรของธุรกิจ แต่ความต้องการลงทุนในทองคำกลับอยู่ในขาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ราคาทองคำอยู่ในขาขึ้นระดับที่เรียกว่าอาจจะสูงเกินไป ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่านักลงทุนสามารถเข้าถึงการซื้อขายทองคำได้ง่ายขึ้น ประกอบกับค่านิยมที่ว่าทองคำนั้นเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (safe-haven) นอกจากนี้ การที่หลายๆประเทศมีการก่อหนี้เพิ่มขึ้นจนทำให้งบดุลของประเทศขยายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงการใช้นโยบายทางการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่นานมานี้ ยิ่งเป็นตัวสนับสนุนให้เห็นว่าทองคำนั้นคือสกุลเงินที่แท้จริงของโลกและมูลค่าของมันมีแต่จะเพิ่มขึ้น หากจะให้บอกว่าราคาทองในอนาคตจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงนั้นเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดา แต่สิ่งหนึ่งที่เราบอกได้เลยก็คือ กองทุนทองคำซึ่งมีการถือทองคำจริงๆนับเป็นช่องทางที่ดีสำหรับนักลงทุนหรือแม้แต่นักเก็งกำไรที่จะมีโอกาสทำประโยชน์จากทองคำ

ดัชนีราคาทองคำ (The Golden Benchmark) 

กองทุนทองคำ (Exchange traded product: ETP) เป็นกองทุนที่ถือสินทรัพย์ในรูปของทองคำจริงๆ (physical gold) และมีเป้าหมายที่จะสร้างผลตอบแทนตามความเคลื่อนไหวของราคาทองคำแท่งในตลาด (Spot price) หักด้วยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน กองทุนประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ดัชนีราคาทองคำอ้างอิงจาก London Gold Fixing ซึ่งจะมีการประกาศราคาทองคำวันละ 2 ครั้ง คือเวลา 10:30 น. และ 15:00 น. ตามเวลาในประเทศอังกฤษ (16:30 น. และ 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทยในช่วง Daylight saving) ราคานี้จะถูกแสดงในรูปแบบของดอลลาร์สหรัฐต่อทองคำน้ำหนัก 1 ทรอยออนซ์ (troy ounce) ซึ่งเป็นหน่วยวัดน้ำหนักของทองคำมาตรฐานที่ทั่วโลกนิยมใช้ ราคาปิดจาก London Gold Fixing นี้เองที่จะนำมาใช้ในการคำนวณราคาที่ใช้ชำระของสัญญาซื้อขายทองระหว่างสมาชิกในตลาดทองคำ

อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับกองทุนทองคำ ETP เสียก่อน เนื่องจากกองทุนนี้เป็นกองทุนที่มีในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่แต่สำหรับในประเทศไทยนั้นกองทุนทองคำส่วนมากยังคงเป็นกองทุนประเภท Fund of funds ที่ไปเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR Gold Trust อีกทีหนึ่ง มิใช่กองทุนที่ลงทุนในทองคำโดยตรง

กองทุนทองคำ (Gold in ETPs)

หากจะเปรียบเทียบกองทุนที่ลงทุนในทองคำแล้ว เราเชื่อว่ากองทุนส่วนใหญ่นั้นมีทางเลือกอยู่ไม่มากมายนักสำหรับการลงทุนในทองคำจริงๆ แต่สิ่งที่จะสร้างความแตกต่างได้ชัดเจนน่าจะอยู่ที่ค่าใช้จ่ายของกองทุนเสียมากกว่า (Total Expense Ratio: TERs) ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้เองที่จะเป็นตัวแปรสำคัญที่นักลงทุนจะต้องตัดสินใจเลือกกองทุนที่จะลงทุนในทองคำและสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นๆในระยะยาว นอกจากค่าใช้จ่ายกองทุนแล้ว กองทุนทองคำในบ้านเรายังใช้นโยบายบ้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นนักลงทุนควรจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุนทองคำให้ละเอียดก่อนเสมอ เพราะถึงแม้ว่ากองทุนทองคำบ้านเราจะไปลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust ที่เดียวเหมือนกันหมด แต่อาจให้ผลตอบแทนที่ต่างกันได้

หากนักลงทุนสนใจจะทำความรู้จักกับกองทุน SPDR Gold Trust เพิ่มเติม นักลงทุนสามารถอ่านบทความเกี่ยวกับกองทุนนี้ได้ที่ บทความ: ทำความรู้จักกับกองทุน SPDR Gold Shares (GLD)  http://www.morningstarthailand.com/th/collection/4504/ETF-Times.aspx

 

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar ETF Analysts  research hundreds of ETFs available to European investors. The Morningstar Rating for ETFs is based on a risk-adjusted performance measure.

© Copyright 2024 Morningstar, Inc. All rights reserved.

ข้อตกลงการใช้งาน        นโยบายความเป็นส่วนตัว       Disclosures