LTF หรือ RMF ดีกว่ากัน

อีกหนึ่งคำถามยอดฮิต สุดคลาสสิค ประจำช่วงนี้ของทุกๆปีนั้ก็คือ ลงทุนอะไรดีระหว่างกองทุน LTF และ RMF วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันครับ

Facebook Twitter LinkedIn

เข้าสู่ช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีแบบนี้ เชื่อว่านักลงทุนหลายคงกำลังยุ่งอยุ่กับการวางแผนลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีกันอยู่เช่นเคย (ว่าแต่ทำไมถึงไม่วางแผนกันตั้งแต่ต้นปี?) แต่ก็นั้นแหละครับ เมื่อสุดท้ายแล้วเป็นสิ่งที่หลีกเหลี่ยงไม่ได้สำหรับนักลงทุนผู้มีรายได้ประจำเข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี เราจึงจำเป็นจะต้องเลือกลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีและหนึ่งในเครื่องมือที่นักลงทุนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดีก็คือ การลงทุนผ่ากองทุน LTF และ RMF นั้นเอง

ปัจจุบันนี้มีกองทุน LTF ในระบบทั้งสิ้น 78 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 356,838 ล้านบาท ในขณะที่ RMF มี 172 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 231,199 ล้านบาท ซึ่งนั้นก็เป็นที่มาของคำถามต่อมาว่าทั้งๆที่กองทุน RMF มีให้เลือกลงทุนมากกว่า กองทุนมีหลากหลายนโยบายให้เลือก และแถมสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีก็ได้เหมือนๆกัน

แล้วทำไม RMF ถึงไม่ได้รับความนิยมมากเท่ากับ LTF?

คำตอบของคำถามนี้ตอบไม่ยากครับ เป็นเพราะเงื่อนไขในเรื่องของระยะเวลาการลงทุนของ RMF ที่มีระยะเวลาในการลงทุนที่ยาวกว่านั้นเองที่ทำให้คนส่วนใหญ่มองว่ากองทุน RMF นั้นเป็นการลงทุนที่ยาวนานเกินไป  แต่ทั้งหมดทั้งมวลนักลงทุนต้องเข้าใจถึงที่มาที่ไปและจุดประสงค์ที่แท้จริงของกองทุนทั้ง 2 ประเภทกันก่อน เนื่องด้วยกองทุน RMF นั้นถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการสนับสนุนและเป็นช่องทางให้ผู้ลงทุนเลือกลงทุนเพื่อการเกษียณ ดังนั้นเงินลงทุนในส่วนนี้จึงจำเป็นจะต้องเป็นลงทุนที่สามารถนำมาลงทุนได้ในระยะยาวนั้นเอง ในขณะที่กองทุน LTF นั้นถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการสนับสนุนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งนั้นก้เป็นที่มาของเหตุผลที่ว่าทำไมกองทุน LTF นั้นมีแต่การลงทุนในหุ้นเท่านั้น ขณะที่ RMF นั้นมีหลากหลายประเภทสินทรัพย์ให้เลือกลงทุน

ดังนั้นแล้วใครที่กำลังลังเลว่าจะเลือกลงทุนในกองทุนประเภทไหนดีระหว่าง LTF และ RMF (หากว่าท่านมีข้อจำกัดในด้านของเงินลงทุนและจำเป็นจะต้องเลือก) วันนี้ผมมีข้อแนะนำง่ายๆมาลองให้พิจารณาดูเพื่อเป็นหลักในการตัดสินใจ

  1. เงินลงทุนนี้เป็นเงินลงทุนระยะยาวหรือสั้น เนื่องจากการลงทุนในกองทุนทั้ง 2 กองทุนนี้นั้นมีเงื่อนไขของระยะเวลาในการลงทุนเป็นข้อแตกต่างที่สำคัญ นักลงทุนจึงควรประเมินว่าเงินที่เราจะนำมาลงทุนนั้นเป็นเงินที่สามารถลงทุนได้ยาวนานแค่ไหน ตัวอย่างเช่น หากท่านนักลงทุนตอนนี้มีอายุ 30ปี แต่คาดว่าจะมีความต้องการใช้เงินจำนวนนี้ในอีก 10ปีข้างหน้า ดังนั้นการลงทุน LTF ก็ดูจะมีความเหมาะสมมากกว่าเพราะ LTF นั้นลงทุนเพียง 7 ปีปฎิทินเท่านั้น ในขณะที่ RMF นั้นจะต้องถือไปจนอายุ 55ปี
  2. ความเสี่ยงที่สามารถรับได้ เนื่องจากกองทุน LTF นั้นเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นเท่านั้น ดังนั้นความเสี่ยงทางการลงทุนก็จะค่อนข้างสูง ในขณะที่กองทุน RMF นั้นมีให้เลือกหลากหลายนโยบายตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำสุดอย่าง กองทุนตลาดเงิน (Money Market Fund) ไปจนถึงเสี่ยงมากอย่างกองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ (กองทุนทองคำ เป็นต้น) ดังนั้นหากเราเป็นผู้ลงทุนวัยใกล้เกษียณสมมติว่าอายุ 55ปี ซึ่งนั้นก็หมายความว่าเรามีความสามารถในการรับความเสี่ยงได้น้อยลง ดังนั้นเราจึงควรเลือกลงทุนในกองทุน RMF ประเภทความเสี่ยงต่ำอย่างเช่น กองทุนตราสารหนี้ หรือกองทุนผสม เป็นหลักมากกว่าที่จะนำเงินส่วนใหญ่นั้นไปลงทุนในกองทุน LTF ที่เน้นลงทุนแต่หุ้นเท่านั้นซึ่งมันอาจจะทำให้เรารับความเสี่ยงมากเกินกว่าที่เรารับได้นั้นเอง
  3. วัตถุประสงค์ในการลงทุน หากคุณเป็นนักลงทุนที่มองเพียงแค่เรื่องของการลดหย่อนภาษีเป็นวัตถุประสงค์ในการลงทุนเท่านั้น (ซึ่งจริงๆแล้วไม่ควรเพราะนักลงทุนอาจจะมองความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มากับการลงทุนในกองทุนทั้ง 2 ประเภท) ก็ต้องยอมรับว่ากองทุน LTF นั้นดูจะมีเหมาะสมมากกว่าเนื่องจากเงื่อนไขในการลงทุนที่น้อยกว่าโดยเฉพาะในเรื่องของระยะเวลาในการลงทุน แต่หากว่าวัตถุประสงค์ในการลงทุนของท่านนั้นคือเรื่องการวางแผนการเงินแล้วนั้น กองทุน RMF ดูจะเป็นเครื่องมือที่ครบเครื่องมากกว่าเพราะมีกองทุนหลากหลายประเภทสินทรัพย์ให้เลือกลงทุน

 

จริงๆแล้วนั้นส่วนตัวผมมองว่าเราไม่จำเป็นจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งหรอกครับ ผมอยากจะสนับสนุนให้ท่านลงทุนในกองทุนทั้ง 2 ประเภท โดยให้แบ่งเงินลงทุนออกเป็น 2 ก้อนซึ่งสัดส่วนนั้นก็แล้วแต่วัตถุประสงค์ทางการลงทุนของแต่ละคน โดยหากสมมติว่าท่านเป็นผู้ลงทุนที่มองเรื่องของการลงทุนระยะยาวและต้องการวางแผนการเกษียณจริงๆ ท่านก็อาจจะนำเงินส่วนใหญ่ไปลงทุนในกองทุน RMF เป็นหลัก แล้วแบ่งส่วนน้อยมาลงทุนในกองทุน LTF ก็ได้เช่นเดียวกัน หรือหากท่านเป็นนักลงทุนที่ลงทุนแต่ LTF มาโดยตลอดเพียงเพราะเห็นว่าระยะเวลาในการลงทุนมันสั้นกว่านั้น ผมก็เห็นว่าควรเริ่มแบ่งเงินมาลงทุนใน RMF บ้างได้แล้วเพราะนอกจากจะเป็นการวางแผนเก็บเงินเพื่อการเกษียณแล้วนั้น กองทุน RMF ยังช่วยในเรื่องของการกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่า 

ท้ายนี้จะเลือกลงทุนกองทุนประเภทนั้นก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการลงทุนนะครับ

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Kittikun Tanaratpattanakit

Kittikun Tanaratpattanakit  Senior Research Analyst