กองหุ้นไทยยิ่งเสี่ยง ผลตอบแทนยิ่งสูง?

High Risk, High Return นั้นอาจเป็นคำที่หลายท่านได้ยินกันมาตลอดชีวิตการลงทุน แต่ความเสี่ยงที่ว่านี้เป็นอย่างไร วันนี้เรามาลองดูตัวอย่างจากกองทุนหุ้นไทยกันค่ะ

Morningstar 24/09/2563
Facebook Twitter LinkedIn

ในช่วงสถานการณ์ที่ไม่ปกติเช่นนี้นักลงทุนอาจต้องการกองทุนที่จะสามารถฟื้นตัวได้หลังจากที่ผ่านช่วงเดือนมีนาคมที่ดัชนีอยู่ในระดับต่ำ จากการวิเคราะห์ของมอร์นิ่งสตาร์โดยใช้กลุ่ม Equity Large-Cap เป็นตัวอย่าง พบว่ากองทุนที่ฟื้นตัวตามตลาดได้ดีจะมีลักษณะที่คล้ายกันคือมี Morningstar Risk Rating อยู่ในระดับสูง (High) ซึ่ง Morningstar Risk นี้เป็นส่วนหนึ่งในการคำนวณเรตติ้งดาวที่นักลงทุนคุ้นเคย โดยเป็นการบอกถึงความเสี่ยงเชิงลบของกองทุนว่ามากน้อยเพียงใด

Up Capture Return เป็นค่าที่บอกว่ากองทุนมีการปรับตัวขึ้นได้มากน้อยเพียงใดในช่วงตลาดฟื้นตัว ซึ่งถ้าเรานำมาเทียบกับดัชนีอ้างอิงแล้วก็จะได้ออกมาเป็น Up Capture Ratio โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิงหาคม พบว่ากองทุนที่มี Morningstar Risk Rating ในระดับสูง (High) มีแนวโน้มที่จะสร้างผลตอบแทนสูงกว่า และมีค่า Up Capture Ratio ในระดับสูงเช่นกัน ในทางกลับกันกองทุนที่มี Morningstar Risk Rating ในระดับต่ำ (Low) มีแนวโน้มที่จะมีค่า Up Capture Ratio ที่ต่ำกว่ากองทุนอื่นที่ลงทุนลักษณะเดียวกัน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือกองทุนที่มีความเสี่ยงสูง มีแนวโน้มที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่านั่นเอง

2020 09 24 13 03 45 up capture ratio

(ค่า Up Capture Ratio นี้เป็นการเปรียบเทียบผลตอบแทนกองทุนกับดัชนีอ้างอิงในช่วงตลาดฟื้นตัว ยกตัวอย่างเช่น หากกองทุนหุ้นไทยมีค่า Upside Capture Ratio ที่ 110 หมายความว่ากองทุนนั้นสามารถสร้างผลตอบแทนที่ 110% ของดัชนี SET TR)

ในทางกลับกัน Down capture เป็นค่าที่บอกว่ากองทุนมี downside มากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับ index ในช่วงที่มีการปรับตัวลง ซึ่งผลที่ได้นั้นแสดงไปในลักษณะเดียวกันคือ กองทุนที่มีความเสี่ยงสูงมีแนวโน้มที่จะมี Down Capture Ratio สูงกว่ากองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า หากดูข้อมูล Up Capture Ratio ควบคู่กับ Down Capture Ratio ในกราฟด้านล่างนี้จะเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ค่านี้ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งหมายความว่าหากกองทุนสามารถปรับตัวขึ้นได้ดีตามตลาด ก็มีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้มากกว่าในช่วงตลาดขาลง ซึ่งเป็นไปตามระดับความเสี่ยงที่มากกว่านั่นเอง

2020 09 24 13 05 24 up down capture

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนชึ้น ข้อมูลด้านล่างเป็นการแสดงการเปรียบเทียบผลตอบแทนแบ่งตามระดับความเสี่ยง โดยกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงจะมี Up Capture Ratio ในช่วงตลาดปรับขึ้นโดยเฉลี่ยที่ 105.4 ในขณะที่กองทุนความเสี่ยงต่ำอยู่ที่ 64.6 หากเป็นช่วงตลาดปรับตัวลง กองทุนเสี่ยงสูงจะมี Average Down Capture Ratio ที่ 98.5 หรือติดลบใกล้เคียงกับตลาด ในขณะที่กลุ่มกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ (Low) มีค่าอยู่ที่ 79.07 หรือหมายความว่าติดลบน้อยกว่า 

2020 09 24 13 04 29 updown capture per risk

จากข้อมูลทั้งหมดนี้อาจพอช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพว่ากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงอาจเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนอื่น และอาจนำไปสู่ความเสี่ยงผลตอบแทนหดตัวมากกว่ากองทุนอื่นในช่วงที่ตลาดไม่สดใส จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนควรให้น้ำหนักกับการพิจารณาความเสี่ยงการลงทุน เพราะถ้าหากเลือกการลงทุนที่ไม่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดและกระทบกับผลตอบแทนพอร์ตการลงทุนในระยะยาวได้ค่ะ

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar