Home Country Bias มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

นักลงทุนบ่อยครั้งมักจะกระจุกการลงทุนอยู่เฉพาะภายในประเทศของตัวเอง หรือที่เรียกว่า Home Country Bias ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น และการกระทำดังกล่าวมีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไร

Morningstar 09/11/2563
Facebook Twitter LinkedIn

หากเราย้อนกลับไปในอดีต โดยเฉพาะก่อนที่จะมี Internet จะพบว่าการหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่ลงทุนนั้นเป็นเรื่องที่ยาก จึงเป็นที่มาให้นักลงทุนส่วนใหญ่ลงทุนอยู่แต่เฉพาะกับบริษัทหรือธุรกิจที่พวกเค้ารู้จักดีเท่านั้น ซึ่งนำไปสู่การลงทุนที่เน้นอยู่แต่ในประเทศของตัวเอง เนื่องจากมีข้อมูลให้เข้าถึงได้มากกว่าการออกไปลงทุนต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันด้วยการเข้าถึงข้อมูลที่มีจำนวนมากนักลงทุนส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้เฉพาะข้อมูลเพื่อการลงทุนในประเทศของตนเป็นส่วนใหญ่อยู่ดี ดังนั้น ความจริงแล้วจึงเป็นเรื่องของความรู้สึกที่ทำให้การลงทุนส่วนใหญ่เน้นอยู่ภายในประเทศ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ใกล้ตัว มีความคุ้นเคยและเข้าถึงได้

ข้อดีของ Home Country Bias

ลดความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน

เนื่องจากการไปลงทุนในต่างประเทศเราต้องใช้สกุลเงินของประเทศนั้นๆเพื่อลงทุน ทำให้เราต้องแลกเปลี่ยนค่าเงินเป็นสกุลเงินในประเทศที่เราออกไปลงทุน และเมื่อเราขายหลักทรัพย์ก็จำเป็นที่จะต้องแลกเงินกลับมาเป็นค่าเงินของเราเองเพื่อเอากลับมาใช้ในประเทศ ทำให้นักลงทุนเจอความผันผวนของค่าเงินได้ ดังนั้น แม้ว่านักลงทุนอาจกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์แต่สุดท้ายก็ขาดทุนจากค่าเงินได้

ผลประโยชน์ทางภาษี

เนื่องจากบางประเทศให้ประโยชน์ทางภาษีแก่นักลงทุนเพื่อกระตุ้นให้เก็บรักษาสินทรัพย์ไว้ในประเทศเท่านั้น เช่น รายได้จากเงินปันผลในหลายๆประเทศก็มีข้อกำหนดเรื่องภาษีจากเงินปันผลที่แตกต่างกันไป

การเชื่อมโยงกันของแต่ละตลาด ทำให้การกระจายการลงทุนไม่ได้ผล

เนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจในแต่ละประเทศที่มีการเชื่อมโยงกัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นในแต่ละประเทศก็มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงเช่นกัน จนทำให้ความแตกต่างในแต่ละภูมิภาคไม่มีผลต่อการลงทุน ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นในหลายๆประเทศมีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นสหรัฐ ดังนั้น การกระจายการลงทุนออกไปต่างประเทศเพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนในประเทศใดประเทศหนึ่งก็ไม่ได้มีความหมายมากนัก เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงไปในทางเดียวกัน นอกจากนี้ บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่จำนวนมากมักจะกระจายรายได้ไปในภูมิภาคต่างๆอยู่แล้ว จึงเท่ากับเป็นการช่วยกระจายการลงทุนให้กับนักลงทุนไปด้วยหากเราลงทุนในบริษัทดังกล่าว

ข้อเสียของ Home Country Bias

การพลาดโอกาสการลงทุนในบางอุตสาหกรรม

เนื่องจากขึ้นอยู่กับสภาพและขนาดของตลาดหุ้นในแต่ละประเทศด้วย แม้ว่าแต่ละประเทศจะมีการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกันมากขึ้นก็ตามแต่ก็ไม่ได้แปลว่าตลาดหุ้นในแต่ละประเทศจะมีหลักทรัพย์ให้ซื้อขายได้ครบทุกอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่น ตลาดหุ้นในอังกฤษหรือแอฟริกาใต้จะมีหุ้นที่เป็น Tech company หรือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ให้ซื้อขายได้น้อยกว่าตลาดหุ้นในสหรัฐ ดังนั้น หากคุณจำกัดการลงทุนอยู่ในประเทศของตัวเอง ก็อาจทำให้คุณพลาดโอกาสการลงทุนในบางอุตสาหกรรมที่มีผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่ผ่านมาได้ อย่างเช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนั่นเอง นอกจากนี้ การลงทุนแต่ในเฉพาะประเทศของตัวเองก็อาจทำให้ไม่สามารถกระจายการลงทุนในอุตสาหกรรมที่หลากหลายได้ อย่างเช่น ในตลาดหุ้นแคนาดาที่ผ่านมาค่อนข้างแย่เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีแต่หุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ

ยกตัวอย่างการลงทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญก็มักมีการกระจายการลงทุน โดยเฉพาะในประเทศที่ให้ความสำคัญต่อระบบกองทุนบำเหน็จบำนาญ จะพบว่าเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญส่วนใหญ่มักจะมีการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศจำนวนมาก เนื่องจากเข้าใจถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการกระจายการลงทุนที่ช่วยทำให้ความเสี่ยงจากการลงทุนลดลงนั่นเอง

หากมองในแง่ Human capital หรือการลงทุนจากการทำงานเพื่อให้ได้รายได้มา ควบคู่กับการลงทุนผ่าน Financial capital หรือการลงทุนผ่านสินทรัพย์ทางการเงิน จะพบว่าโดยทั่วไปแล้วนักลงทุนส่วนใหญ่จะกระจุกการลงทุนทั้ง 2 ชนิดในภูมิภาคเดียวกัน นั่นคือ เรามักจะทำงานหรือถูกจ้างงานจากบริษัทในประเทศตนเอง ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินก็มักจะอยู่ในประเทศเราเองเช่นกัน ดังนั้น หากเศรษฐกิจในประเทศเราตกต่ำก็เป็นไปได้ว่าเราอาจทั้งตกงานและขาดทุนจากสินทรัพย์ที่ลงทุนไปพร้อมๆกัน ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เราจึงไม่ควรใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าเดียวกัน

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar