ตลาดหุ้นสหรัฐในเดือนเมษายน

ในช่วงที่ผ่านมาหลังจากที่ FED ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจังมากขึ้น ก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับลดลงอย่างมาก โดย Morningstar U.S. Market index ปรับลดลง 8% ในช่วงเดือนเมษายน 

Morningstar 03/05/2565
Facebook Twitter LinkedIn

ในช่วงที่ผ่านมาหลังจากที่ FED ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจังมากขึ้น ก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับลดลงอย่างมาก โดย Morningstar U.S. Market index ปรับลดลง 8% ในช่วงเดือนเมษายน และตั้งแต่ต้นปีปรับลดลงถึง 13% แล้ว ขณะที่ภาพรวมในไตรมาสแรกของปีนี้ หุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่ม Growth อย่างเทคโนโลยีและสื่อสารอย่างเช่น Microsoft MSFT, Apple AAPL และ Nvidia NVDA ก็ปรับลดลงและทำให้ภาพรวมของตลาดดูแย่ไปด้วย ขณะที่หุ้นกลุ่ม Value อย่าง Consumer stocks ได้แก่ Johnson & Johnson JNJ และ Procter & Gamble PG กลับเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่ผ่านมา และแม้ว่ายังคงมีความเสี่ยงจากการลงทุนอยู่ทั้งจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อ และประเด็นการเมืองของรัสเซีย-ยูเครน แต่ด้วยตลาดหุ้นที่ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมาก็ทำให้มีหุ้นหลายๆบริษัทที่น่าสนใจลงทุนมากขึ้นจากราคาที่ปรับลง

1

ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นสหรัฐได้เกิดการปรับฐานลงอย่างหนัก โดยช่วงกลางเดือนมีนาคม Morningstar U.S. Market index ปรับลง 13.6% จากจุดสูงสุดตั้งแต่ต้นปี

2

นอกจากนี้ตลาดยังแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างหุ้นกลุ่ม Growth และ Value โดยในเดือนเมษายนหุ้นกลุ่ม Growth ขาดทุนถึง 14.9% ขณะที่กลุ่ม Value ยังกำไรอยู่ที่ 2.9% ขณะที่ Morningstar US Growth index ปรับลดลง 14.9% แต่ Morningstar US Value index ปรับขึ้น 7.1%.

(Morningstar ได้แบ่งชนิดของหุ้นเป็นกลุ่ม Growth หรือ Value โดยอาศัยเกณฑ์การพิจารณาจาก  Earnings, Sales, Book value, Cash flow, Dividend yields เป็นการแบ่งประเภท รวมถึงการพิจารณาเรื่อง Price/Projected earnings ratio, Price/Book, Price/Sales และ Price/Cash flow อย่างเช่นหุ้นกลุ่ม Growth มักจะมี Earnings หรือ Sales growth ที่สูงและมี Dividend yieldsที่ต่ำ เป็นต้น)

3

หากดูเป็นราย Sector พบว่าในเดือนเมษายนนั้น หุ้นปรับลดลงเกือบทั้งตลาด ยกเว้นกลุ่ม Consumer โดย Morningstar US Consumer Defensive index ปรับเพิ่มขึ้น 3.4% นำโดยหุ้น Johnson & Johnson ที่เพิ่มขึ้น 4.2% และหุ้น Procter & Gamble ปรับเพิ่มขึ้น 5.2% ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีและสื่อสารปรับลดลง โดย Morningstar US Technology index ลดลง 13% และ Morningstar US Communication Services index ลดลง 13.7% ซึ่งนำโดยหุ้น Microsoft ที่ปรับลดลงถึง 12.4% (ข้อมูล ณ วันที 26 เมษายน)

4

ทั้งนี้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสื่อสารมีน้ำหนักค่อนข้างมากในตลาดสหรัฐ ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นปรับลดลง โดยหุ้นในกลุ่มนี้ที่ปรับลงมากได้แก่ Apple, NVIDIA, Netflix NFLX ขณะที่หุ้นในกลุ่ม Consumer cyclical ที่ลดลงได้แก่ Amazon AMZN, Tesla TSLA

5

อย่างไรก็ดีภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับลดลงนั้นถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุน เนื่องจากตลาดโดยรวมลดลงและต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานที่  Morningstar ประเมินไว้ถึง 6% และต่ำกว่าปีที่แล้วที่ตลาดโดยรวมปรับขึ้นสูงกว่ามูลค่าพื้นฐานถึง 13%

6

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar