ภาวะตลาดไตรมาส 1-2023 ท่ามกลางวิกฤติธนาคาร

แม้จะเกิดเหตุการณ์ Banking crisis ทั้งในสหรัฐและยุโรป แต่ S&P 500 ยังให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกหรือ 7.5% ขณะที่ GDP สหรัฐในไตรมาสแรกคาดการณ์ออกมาอยู่ที่ 2.5%

Morningstar 02/05/2566
Facebook Twitter LinkedIn

ในช่วงเดือนที่ผ่านๆมาแม้จะเกิดเหตุการณ์ Banking crisis ทั้งในสหรัฐและยุโรป แต่ S&P 500 ยังให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกหรือ 7.5% ขณะที่ GDP สหรัฐในไตรมาสแรกคาดการณ์ออกมาอยู่ที่ 2.5% ทั้งนี้หลังจากที่ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในเดือนมีนาคม ผลตอบแทนของตลาดตราสารหนี้ในไตรมาสแรกของปีนี้ยังคงออกมาดีเนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ธนาคารทำให้เกิดความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำนั่นเอง ส่งผลให้มีเงินไหลเข้าลงทุนในกลุ่ม Money market funds อย่างมาก และแม้จะมีความผันผวนเกิดขึ้นในไตรมาสแรกแต่เศรษฐกิจโดยรวมก็ยังคงปรับเพิ่มขึ้นได้

ภาพตลาดโดยรวม

อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงทั่วโลกแม้ว่าจะชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม ทั้งนี้ตลาดหุ้นยุโรปเป็นกลุ่มประเทศที่มีการฟื้นตัวมากที่สุดหลังจากที่เกิดความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย

1

โดยยุโรปเป็นกลุ่มประเทศที่มีปัญหาเงินเฟ้อกดดันมากที่สุด ซึ่งในบางประเทศมีอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยที่ผ่านมาจากค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานปกติ 4-5 เท่า ขณะที่กลุ่มอเมริกาเหนือเป็นกลุ่มที่เงินเฟ้อเริ่มมีสัญญาณชะลอลงโดยเฉพาะในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา

2

สำหรับภาพตลาดการเงินในช่วงที่ผ่านมาหลังจากเกิดการระบาดของ COVID19 สินทรัพย์ต่างๆปรับขึ้นค่อนข้างดี ทั้ง Bitcoin น้ำมัน และตลาดหุ้น แต่หากมองแค่ช่วงสั้น 1 ปีย้อนหลังผลตอบแทนที่ได้อาจไม่สูงมากนักเท่ากับนักลงทุนที่ลงทุนยาวก่อนหน้านี้

3

ด้านตลาดเงินพบว่าเป็นครั้งแรกหลังจากเกิด Global financial crisis ที่นักลงทุนให้น้ำหนักลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงและมีความเสี่ยงต่ำอย่างเช่น Money Market Funds มากกว่าการฝากเงินในธนาคารซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาวิกฤติธนาคารที่เกิดขึ้นในรอบนี้

4

การล้มละลายของ Silicon Valley Bank ทำให้อาจส่งผลต่อธนาคารขนาดเล็กอื่นๆตามมาได้ในอนาคตอีกด้วยเนื่องจากธนาคารเหล่านี้มีการปล่อยกู้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก ซึ่งเป็นส่วนที่กำลังโดนผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้า Online มากขึ้น

5

ด้านตลาดหุ้นพบว่าหุ้น Silicon Valley Bank ในปีที่แล้วเป็นที่สนใจลงทุนจากผู้จัดการกองทุนอย่างมาก เนื่องจากเป็นธนาคารที่เน้นให้กู้ยืมในกลุ่มธุรกิจ Startups โดยเฉพาะ ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจเหล่านี้ก็ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างมาก การล้มละลายของ Silicon Valley Bank ในปีนี้จึงทำให้กำไรจากการลงทุนที่มีอยู่ของกองทุนทั้งหลายนั้นถูกผลกระทบไปด้วยเช่นกันเนื่องจากส่วนใหญ่ยังคงถือหุ้นของธนาคารไว้และไม่ได้มีการขายออกมาในช่วงก่อนที่จะเกิดการล้มละลายของธนาคาร

6

ด้านตลาดตราหนี้ในไตรมาสแรกของปีนี้ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีอย่างมากแม้ว่าจะมีความผันผวนสูงทั้งจากเรื่องของอัตราดอกเบี้ยในตลาดและคุณภาพสินเชื่อก็ตาม

7

แต่ในปีที่แล้วพบว่าความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยทำให้ราคาตราสารหนี้นั้นปรับลดลงอย่างมากหลังจากที่อัตราผลตอบแทนหรือ Yields ปรับเพิ่มขึ้นมากหากเทียบจากค่าเฉลี่ยย้อนหลังในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากความกังวลต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed และปัญหาคุณภาพสินเชื่อที่เกิดขึ้น

8

ตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวมเริ่มเผชิญแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ทำให้ตัวเลขสถิติต่างๆไม่ว่าจะเป็นการขึ้นบ้านใหม่ หรือระดับราคาที่อยู่อาศัยต่างปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ปัญหาธนาคารในสหรัฐก็ส่งผลให้ธนาคารขนาดเล็กอื่นๆเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อในภาคอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย

9

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar  Morningstar