ผลการศึกษาค่าธรรมเนียมกองทุนทั่วโลก

มอร์นิ่งสตาร์เปิดเผยรายงานประสบการณ์การลงทุนทั่วโลกในด้านค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย: ประเทศไทยได้ระดับ Above Average

Morningstar 18/09/2562
Facebook Twitter LinkedIn

มอร์นิ่งสตาร์เปิดเผยรายงานประสบการณ์การลงทุนทั่วโลก (Global Investor Experience: GIE) ซึ่งจัดทำขึ้นทุก ๆ 2 ปี โดยเป็นการให้คะแนนเกี่ยวกับประสบการณ์ในการลงทุนกองทุนรวมของนักลงทุนใน 26 ตลาดทั่วโลกทั้งในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชีย และแอฟริกา สำหรับการจัดทำรายงานครั้งที่ 6 นี้ มอร์นิ่งสตาร์จะเปิดเผยข้อมูลการประเมินแต่ละส่วนแยกออกเป็นแต่ละรายงาน – ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย (Fee and Expenses) กฎเกณฑ์และการจัดเก็บภาษี (Regulation and Taxation) การเปิดเผยข้อมูล (Disclosures) และการขาย (Sales)

สำหรับรายงานในส่วนแรกคือ ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย (Fee and Expenses) เป็นการเปิดเผยข้อมูลการประเมินต้นทุนกองทุนรวมในแต่ละตลาดทั่วโลก โดยประเทศไทยได้คะแนนระดับ Above Average โดยเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายของกองทุนตราสารหนี้โดยคิดจากค่ามัธยฐานถ่วงด้วยน้ำหนักมูลค่าทรัพย์สิน (Asset-weighted median)

ประเทศออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกาในระดับ Top ซึ่งหมายความว่าเป็นตลาดที่มีความเป็นมิตรกับนักลงทุนสูงสุดในด้านค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย ในทางกลับกันมอร์นิ่งสตาร์ให้คะแนนประเทศอิตาลีและไต้หวันในระดับ Bottom ซึ่งถือเป็นตลาดกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายสูง

GIE TH article

ประเด็นสำคัญสำหรับรายงานมีดังนี้
• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายกองทุนโดยคิดจากค่ามัธยฐานถ่วงด้วยน้ำหนักมูลค่าทรัพย์สิน (Asset-weighted median expense ratio) สำหรับกองทุน domestic และ available-for-sale ส่วนใหญ่ใน 26 ตลาดการลงทุนปรับตัวลง ประเทศเนเธอร์แลนด์ลดลงมากที่สุดตามมาด้วยอินเดียและแคนาดา

• อันดับคะแนนสูงสุด (Top) เป็นของสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลียและเนเธอร์แลนด์ Economies of Scale และการแข่งขันถือเป็นแรงผลักดันที่ทำให้สหรัฐอเมริกามีคะแนนระดับ Top ตลอดการศึกษาทั้ง 6 ครั้งของรายงาน GIE ทั้งนี้ประเทศออสเตรเลียและเนเธอร์แลนด์ได้คะแนนระดับ Top เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันจากกฎเกณฑ์ที่มีประสิทธิภาพที่นำไปสู่ความโปร่งใสของการเก็บค่าธรรมเนียมของทั้ง 2 ประเทศ ในขณะที่การแข่งขันและ economies of scale ช่วยลดค่าใช้จ่ายกองทุนในประเทศออสเตรเลีย

• ไต้หวันและอิตาลีได้คะแนนระดับ Bottom ไต้หวันยังคงได้รับคะแนนระดับต่ำมาอย่างต่อเนื่องในด้านค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายโดยมีกองทุนที่มีต้นทุนสูงสุดเทียบกับตลาดอื่น ๆ ส่วนอิตาลีได้คะแนนระดับ Bottom ซึ่งต่ำลงจากเดิมที่ Below Average จากค่าธรรมเนียมการขายและค่า commission (แบบ retrocessions) รวมทั้งค่า asset-weighted median ที่สูง

• 13 ประเทศได้คะแนนอยู่ในระดับ Average และ Above Average จากการศึกษาข้อมูลในครั้งนี้สรุปได้ว่าโดยรวมแล้วนักลงทุนมีประสบการณ์การลงทุนที่ดีขึ้นในหลายประเทศจากค่าธรรมเนียมกองทุนที่ลดลงรวมทั้งสามารถซื้อกองทุนได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการขายหรือ trailing commissions

• หน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนด้านความโปร่งใสของค่าธรรมเนียมเนื่องจากนโยบายจากรัฐบาลมีส่วนช่วยในการออกเกณฑ์การจัดเก็บภาษีหรือสร้างแรงจูงใจเพื่อประโยชน์ทางภาษีเพื่อรองรับการการออมเงินที่มากขึ้น การเติบโตของตลาดและการออมเงินที่มากขึ้นนั้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมการลงทุนเติบโตอย่างมาก และยังชี้ให้เห็นว่าผู้ลงทุนควรได้ประโยชน์จาก economies of scale ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ประเทศอินเดียได้คะแนนดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ Average จาก Below Average ในปี 2017 ในด้านค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายกองทุน อินเดียถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีค่าใช้จ่ายกองทุนสูงสุด แต่ด้วยการออกเกณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้ลงทุนโดยการห้ามเก็บค่าธรรมเนียมการขายและค่า commission (up-front commissions) และการออกเกณฑ์เพดานในการเก็บค่าธรรมเนียม ส่งผลให้อินเดียมีระดับคะแนนที่ดีขึ้น

สำหรับประเทศไทยนั้นได้คะแนนด้านค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในระดับ Above Average เช่นเดียวกับปี 2017 โดยนักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงกองทุนที่ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการขายโดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้ รวมทั้งมีค่าธรรมเนียมในกองทุนผสมที่ต่ำลง อย่างไรก็ตามตลาดกองทุนรวมไทยยังสามารถพัฒนาได้อีก โดยเฉพาะในเรื่องของการเก็บค่าคอมมิสชั่นแบบ trail commission จากนักลงทุนที่ในปัจจุบันยังมีให้เห็นอยู่ทั่วไป

(Trailing commission คือค่าธรรมเนียมที่บลจ. จ่ายให้ตัวแทนขายหน่วยลงทุนเป็นรายปี โดยจ่ายตามระยะเวลาการถือหน่วยลงทุนผ่านตัวแทนขายรายนั้น ๆ)

รายงานในส่วน “ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย” (ภาษาอังกฤษ) สามารถดูได้ที่นี่

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar