กองทุนกลุ่ม Global Healthcare ณ วันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมามีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 2.6 หมื่นล้านบาท หรือลดลง -4% จากปี 2019 จากจำนวนทั้งหมด 28 กองทุน โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนแบบ feeder fund คือนักลงทุนไทยซื้อกองทุนจากบลจ.ในประเทศแล้วกองทุนนั้นนำเงินไปลงทุนในกองทุนหลักต่างประเทศ 1 กองที่มีการลงทุนในตราสารทุนกลุ่มดังกล่าว ปัจจุบันกองทุนไทยนิยมไปลงทุนในกองทุนจากบลจ. JPMorgan สูงสุดราว 1.1 หมื่นล้านบาท
กองทุนกลุ่มนี้ลงทุนอะไร
สำหรับนักลงทุนที่ไม่เคยลงทุนอาจสงสัยว่ากองทุนกลุ่มนี้ลงทุนอะไร สำหรับประเทศไทยเองหากพูดถึงกลุ่ม Healthcare อาจจะนึกถึงหุ้นโรงพยาบาลเป็นหลัก แต่ในต่างประเทศจะมีความแตกต่างหลากหลายมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตยา วัคซีน อุปกรณ์การแพทย์ ประกันสุขภาพ เทคโนโลยีชีวภาพหรือการทดลองทางการแพทย์ต่าง ๆ ตัวอย่างบริษัทที่กองทุนจากบลจ. ต่างประเทศไปลงทุนได้แก่ UnitedHealth Group, Novartis, Pfizer, AstraZeneca เป็นต้น
ผลตอบแทนฟื้นตัวจากต้นปี
ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาผลตอบแทนกองทุนกลุ่ม Global Health Care มีการฟื้นตัวขึ้นมาราว 12.5% ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการลงทุนกองทุนต่างประเทศกลุ่มอื่น อย่างไรก็ตามหากมองในภาพของปีนี้จะเห็นได้ว่าผลตอบแทนที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงนี้เป็นการฟื้นตัวจากช่วงต้นปีที่มีการปรับตัวลงมาในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่ –5.8% และ -4.7% ตามลำดับ โดยผลตอบแทนสะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ราว 2.7% (ข้อมูล ณ วันที่ 21 พฤษภาคม 2020)
Covid-19 ส่งผลดีต่อกองทุนกลุ่มนี้?
เนื่องด้วยยาถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ผู้ผลิตยาหรือเวชภัณฑ์บางแห่งอาจได้ประโยชน์จากการสั่งซื้อหรือกักตุนสินค้าประเภทนี้ในช่วงการแพร่ระบาดของ Covid-19 จึงอาจมียอดขายสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ของมอร์นิ่งสตาร์มองว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นยังไม่ส่งผลบวกอย่างมีนัยสำคัญเมื่อสถานการณ์ Covid-19 เริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ความคืบหน้าในการเร่งผลิตวัคซีนจากบริษัทผู้ผลิตยาต่าง ๆ ส่งผลให้ตลาดมีความคาดหวังกับการลงทุนในธุรกิจเหล่านี้มากขึ้น อย่างไรก็ตามหากนักลงทุนติดตามข่าวการผลิตวัคซีนจะพบว่าการเร่งผลิตวัคซีนโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องนั้นยังเป็นในรูปแบบของการไม่แสวงหากำไร รวมทั้งโดยปกติแล้วการพัฒนาวัคซีนอาจใช้เวลานานจึงอาจส่งผลต่อมูลค่าของบริษัทอย่างจำกัด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการผลิตวัคซีนจะไม่สร้างประโยชน์ให้กับบริษัทเลย โดยทางมอร์นิ่งสตาร์มองว่าจะเป็นการสร้าง goodwill ให้กับบริษัทซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือหรือจะทำให้บริษัทอาจมีอำนาจต่อรองราคาของผลิตภัณฑ์ยาได้ในอนาคต
สำหรับนักลงทุนที่สนใจในกองทุนกลุ่มนี้ควรคำนึงถึงความเสี่ยงจากการลงทุนที่สำคัญคือกองทุนกลุ่มนี้เป็นการลงทุนแบบกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม หากเกิดปัจจัยใดที่กระทบกับธุรกิจเป็นการเฉพาะก็จะส่งผลต่อผลตอบแทนกองทุนอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งควรให้ความสำคัญกับการลงทุนในระยะยาวมากกว่าการคาดหวังผลตอบแทนที่ปรับตัวขึ้นเร็วในระยะสั้น