กองทุนกลุ่ม Global Equity ก็เป็นอีกกลุ่มที่มีการเติบโตที่โดดเด่นหรือราว 140% จากปีที่แล้ว โดยในปีที่ผ่านมามีเงินไหลเข้าสุทธิรวม 5.0 หมื่นล้านบาท โดยเป็นเงินไหลเข้ากระจายในหลายบลจ. นำโดยบลจ.กสิกรไทยที่มีเงินไหลเข้าสุทธิรวมกว่าหมื่นล้านบาท โดยมีกองทุน K Positive Change Equity (K-CHANGE-A(A)) ที่เป็นกองทุนเด่นในกลุ่มนี้ และเป็นการลงทุนไปยัง master fund จาก Baillie Gifford โดยทั้ง 3 share class ของ K-CHANGE (class ปกติ, RMF และ SSF) มีเงินไหลเข้าสุทธิรวมกัน 9.0 พันล้านบาท และในรอบปีที่ผ่านมากองทุน K-CHANGE-A(A) มีผลตอบแทนสูงถึง 73.3%
ตามมาด้วยบลจ.ทหารไทย ที่มีเงินไหลเข้าในกองทุนที่มีอยู่เดิมและเป็นกองทุนขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มคือ TMB Global Quality Growth (ลงทุนใน master fund จากบลจ. Wellington) และกองทุนเปิดใหม่ TMB Eastspring Global Innovation (ลงทุนในกองทุน Nikko AM ARK Disruptive Innovation) รวมกันมากกว่า 7 พันล้านบาท
ด้านบลจ.วรรณ มีกองทุน ONE Ultimate Global Growth RA ที่เป็นหนึ่งในกองทุนที่มีผลตอบแทนสูงสุดของปีหรือเกือบ 85% ทำให้เป็นที่สนใจของนักลงทุนอย่างมาและมีเงินไหลเข้าสุทธิ 3.9 พันล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 2020 กองทุนนี้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 8.9 พันล้านบาท โดยมีการลงทุนไปที่กองทุนจากบลจ. Baillie Gifford
เนื่องจากกองทุนที่มีการลงทุนไปยังบลจ. Baillie Gifford เช่น K Positive Change Equity หรือ ONE Ultimate Global Growth RA มีการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินที่สูงในปีนี้ ทำให้ Baillie Gifford เป็นบลจ. ที่มีกองทุนรวมไทยในกลุ่ม Global Equity ไปลงทุนสูงสุดเป็นอันดับ 2 หากดูที่ผลตอบแทนจะพบว่ากองทุนจาก Baillie Gifford สามารถสร้างผลตอบแทนได้โดยเฉลี่ยมากกว่า 80% ในรอบปีที่ผ่านมา โดยทั้งหมดเป็นกองทุน 5 ดาว
กองทุน Nikko AM ARK Disruptive Innovation A USD (มี ARK Investment Management LLC. เป็น Investment Adviser) สร้างผลตอบแทนได้สูงถึง 147% จากกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นธีม Disruptive Innovation ที่หมายถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีการใช้เทคโนโลยี สร้างนวัตกรรมเช่นด้านอุตสาหกรรม, fintech, genomic และ internet ที่ครอบคลุมถึง IoT, Cloud Computing, หรือ Big Data เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่วิถีใหม่ในโลก ทั้งนี้กองทุนนี้มีการถือหุ้น Tesla เป็นสัดส่วนสูงสุดมาตั้งแต่เริ่มเปิดกองทุนในช่วงปลายเดือนสิงหาคมปี 2018
นอกจากนี้ยังมี ARK ETF อื่นอีกเช่น ARK Next Generation Internet ETF (ARKW) ARK Genomic Revolution ETF (ARKG) ARK Innovation ETF (ARKK) ซึ่งมีการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินเติบโตหลายเท่าตัวจากปี 2019 โดยมี ARKK ที่มีมูลค่าสูงสุด 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 5 แสนล้านบาท ทั้งนี้ทุกกองที่เป็น active ETF มีผลตอบแทนมากกว่า 100% ในปี 2020
จาก ARK ETF ที่เป็น Actively managed จำนวน 5 กองมีกองทุนรวมไทยลงทุนใน 3 กองคือ ARKK, ARKW และ ARKG ซึ่งเป็นกองทุนจาก บลจ.ทิสโก้ 2 กองทุน บลจ.ฟิลลิป 1 กองทุน และยังมีกองทุนกำลังจะจัดตั้งใหม่จาก บลจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์และบลจ. วี ทั้งนี้แต่ละกองทุนมีการเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการที่แตกต่างกัน กอง PWIN, T-ES-GINNO และ TMB-ES-GINNO มีการเก็บธรรมเนียมสูงกว่ากองอื่นเล็กน้อย โดยกองทุน PWIN มีการลงทุนแบบ fund of funds ขณะที่ T-ES-GINNO และ TMB-ES-GINNO เป็นการลงทุนในกองทุนที่ไม่ใช่ ETF