กลุ่มกองทุนยอดนิยมประจำเดือนมกราคม

กลุ่มกองทุนต่างประเทศยังได้รับความนิยมต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยเฉพาะกองทุนตราสารทุน

Morningstar 11/02/2564
Facebook Twitter LinkedIn

ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้มีข่าวสารความเคลื่อนไหวที่ส่งผลการลงทุนในหลายประเด็น ทั้งการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน การฉีดวัคซีนให้กับประชากรในหลายประเทศ มาตรการทางการเงินของสหรัฐที่ยังคงอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจยังมหาศาล ทำให้ภาพการลงทุนตลาดหุ้นต่างประเทศยังคงมีการปรับตัวขึ้นได้แม้ผลกระทบจากโรคระบาดยังคงอยู่

flow jan 21

ในช่วงเดือนแรกของการลงทุนในกองทุนรวม ยังคงเป็นภาพต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยการลงทุนหุ้นต่างประเทศยังมีทิศทางที่สดใสกว่า เห็นได้จากกองทุนหุ้นทั่วโลก (Global Equity) เป็นกลุ่มที่มีเม็ดเงินไหลเข้าสูงสุด 1.6 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินไหลเข้ากองทุนที่มี theme ลงทุนแบบใหม่เช่น การลงทุนเกี่ยวกับนวัตกรรมยุคใหม่หรือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวิถึชีวิตของผู้คนที่เข้าสู่ยุค digital มากขึ้น ซึ่งอาจกระจายอยู่ในหุ้นกลุ่ม Technology, Healthcare หรือ Communication Services นำโดยกองทุน TMB-ES-GINNO ที่ 2.6 พันล้านบาท ทำให้กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่มากกว่า 8 พันล้านบาทหลังจากเปิดขายกองทุนเมื่อเดือนตุลาคม 2020 โดยกองทุนนี้มีผลตอบแทนรอบ 1 เดือนที่ 7.9% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 0.7% นอกจากนี้ยังมีกองทุน LHINNO-A และ T-ES-GINNO ที่ได้รับความสนใจจากการลงทุนที่มีลักษณะเดียวกัน

ge th

จากที่ประเทศจีนมีการเติบโตของ GDP ติดลบเพียงแค่ในช่วงต้นปี 2020 จึงถือเป็นประเทศแรก ๆ ที่ฟื้นตัวจากการระบาดของ Covid-19 กลุ่มกองทุนหุ้นจีน (China Equity) เป็นกลุ่มที่มีเงินไหลเข้าสูงเป็นอันดับ 2 ของเดือนมกราคมรวม 1.5 หมื่นล้านบาท นำโดยกองทุน KT-Ashares-A ที่มีเงินไหลเข้าสูงถึง 8.2 พันล้านบาท ทำให้มีมูลค่าทรัพย์สินเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มที่ 1.6 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากสิ้นปี 2020 ทั้งนี้กลุ่มกองทุนหุ้นจีนยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าหลายกลุ่ม โดยเฉลี่ยรอบ 1 เดือนอยู่ที่ 6.4% (ทั้งปี 2020 โดยเฉลี่ยอยู่ที่ราว 19%)  

chn th

กองทุนกลุ่ม Global Health Care เป็นกลุ่มกองทุนติดอันดับเม็ดเงินไหลเข้าสูงสุดในรอบปี 2020 โดยในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมามีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิ 1.1 หมื่นล้านบาท แต่ส่วนใหญ่เป็นเม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุน TGENOME จาก บลจ.ทิสโก้ รวมมูลค่ากว่า 9 พันล้านบาท ทำให้กองทุนนี้ก้าวขึ้นมาเป็นกองทุนขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 9.2 พันล้านบาท โดยกองทุนนี้มี master fund คือ ARK Genomic Revolution ETF จาก ARK Invest ที่ถือเป็นหนึ่งในกองทุนที่เป็นกระแสโด่งดังในช่วงนี้

GHC

นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม Global Sector Focus Equity ที่มีเงินไหลเข้าสุทธิ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยเป็นเงินไหลเข้ากองทุน T-ES-GGREEN จากบลจ.ธนชาต รวมกว่า 6 พันล้านบาท กองทุนนี้มีการลงทุนเน้นความยั่งยืนในกลุ่มพลังงานหมุนเวียนและโครงสร้างพื้นฐาน ที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุน ESG ที่มีความตื่นตัวกันอย่างมากในต่างประเทศ รวมทั้งมุมมองของ โจ ไบเดน ที่มีต่อประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นองค์ประกอบหนึ่งของ ESG จะเป็นส่วนสำคัญให้การลงทุนอย่างยั่งยืนเติบโตขึ้นได้ในอนาคต

(หมายเหตุ กองทุนในกลุ่ม Global Sector Focus Equity มีการลงทุนที่แตกต่างจากหลายหมวดอุตสาหกรรมจึงไม่มีการคำนวณค่าเฉลี่ยผลตอบแทนของกลุ่ม)

จากภาพเม็ดเงินไหลเข้านี้ยังเป็นการแสดงถึงเทรนด์ความนิยมการลงทุนหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มที่มีการลงทุนเกี่ยวข้องกับนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลก หรือ theme การลงทุนอย่างยั่งยืน (sustainable investment) ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตในปีนี้ ทั้งนี้นักลงทุนที่สนใจควรศึกษารายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญก่อนการลงทุนทุกครั้ง เพื่อทำความเข้าใจลักษณะ แนวทาง นโยบายการลงทุน เพื่อให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตนเอง  

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar