จะลงทุนต่อหรือนำเงินไปใช้หนี้ดี?

ในสภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำในปัจจุบัน การนำเงินไปลงทุนต่อเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น หรือนำเงินไปใช้หนี้เงินกู้จากการซื้อที่อยู่อาศัย ทางเลือกไหนจะดีกว่ากัน?

Morningstar 07/03/2564
Facebook Twitter LinkedIn

ในสภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำในปัจจุบัน เงินฝากที่อยู่ในธนาคารทิ้งไว้ก็มีแต่จะทำให้มูลค่าของเงินลดลง หากนำเงินดังกล่าวไปลงทุนต่อเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น หรือนำเงินไปใช้หนี้เงินกู้จากการซื้อที่อยู่อาศัยก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีทั้งคู่ ซึ่งจะเลือกทางไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคนว่าควรจะเลือกทางไหนมากกว่ากัน เช่น หากอายุยังน้อยก็สามารถทนรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้สูงขึ้น หรือถ้ามีระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนานก็จะสามารถทนรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้สูงกว่าเช่นกัน ทางเลือกการนำเงินไปลงทุนต่อจึงน่าจะเหมาะสมกว่า

ทางเลือกในการจ่ายหนี้เงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย

หากคุณเป็นคนรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้น้อย ทางเลือกในการนำเงินที่มีไปลดภาระหนี้เงินกู้เพื่อเป็นการลดภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในอนาคตน่าจะเป็นเลือกที่เหมาะสม และยังทำให้มีเงินเพื่อใช้จ่ายในอนาคตสูงขึ้นได้อีกด้วย เนื่องจากการลดเงินต้นลงจะทำให้เงินค่าผ่อนชำระรายเดือนลดลงหรืออาจลดระยะเวลาการกู้ให้ลดลงได้เช่นกัน (ตัวอย่างตามตาราง)

downpay

ทางเลือกในการนำเงินไปลงทุนต่อในตลาดหุ้น

หากนักลงทุนสามารถลงทุนแล้วได้รับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ การเลือกนำเงินมาลงทุนในหุ้นก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีแม้ว่าจะมีความเสี่ยงก็ตาม ทั้งนี้ ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในหุ้นมักจะมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย เช่น จากกราฟสีน้ำเงินแสดงให้เห็นว่าผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในหุ้นด้วยเงินลงทุน 50,000 ปอนด์ เป็นเวลา 25 ปี อยู่ที่ 221,000 ปอนด์ หรือ 7% ต่อปี ขณะที่หากเอาเงิน 50,000 ปอนด์ ไปลดเงินกู้อสังหาริมทรัพย์จะช่วยประหยัดดอกเบี้ยจ่ายลงได้ 13,000 ปอนด์เท่านั้น

int gain save

ก่อนที่จะรีบตัดสินใจลงทุน อย่าลืมคำนึงถึงความเสี่ยงจากการลงทุนที่อาจทำให้มูลค่าเงินลงทุนลดลงได้ เช่น ความเสี่ยงจากตลาด หรือความเสี่ยงจากบริษัทที่เราไปลงทุน นอกจากนี้ การลงทุนยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักลงทุน อารมณ์และความรู้สึก เหมือนที่เราเคยได้ยินกันบ่อยๆ เช่น ให้ซื้อถูกขายแพง หรืออย่างคำกล่าวที่ Warren Buffett ให้ไว้เช่น “จงกลัวเวลาที่คนอื่นกำลังโลภ จงโลภเวลาที่คนอื่นกลัว” ซึ่งสิ่งต่างๆอาจยากในทางปฎิบัติ คงต้องใช้ระยะเวลาในการสั่งสมเพื่อให้ได้ความสำเร็จในระยะยาว

โดยสรุปแล้วการจะเลือกนำเงินไปลงทุนหรือไปจ่ายหนี้เงินกู้ ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป การนำเงินไปจ่ายเพื่อลดหนี้เงินกู้ถือเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในอนาคตได้ และเป็นการลดภาระหนี้ ทำให้มีเงินเพื่อใช้จ่ายในอนาคตสูงขึ้น ขณะที่การเลือกเอาเงินไปลงทุนในหุ้นก็ทำให้เราต้องรับความเสี่ยงสูงขึ้นแต่ก็สามารถคาดหวังอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงลงและเน้นลงทุนระยะยาวมากขึ้น และจะเลือกทำอย่างไรกับเงินสดที่มีก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคน

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar