การฟื้นตัวของธุรกิจยานยนต์ในสหรัฐ

การระบาดของ COVID19 ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ในอเมริกาถูกกระทบไปด้วยจากการที่มีกำลังการผลิตไม่เพียงพอหลังเกิดภาวะขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิคส์จากการที่โรงงานต้องหยุดการผลิตไปชั่วคราว รวมไปถึงเหตุเพลิงไหม้ในโรงงานในญี่ปุ่นและพายุฤดูหนาวที่เกิดขึ้นในรัฐเท็กซัสของอเมริกาก็ทำให้โรงงานผลิตชิ้นส่วนเหล่านี้ต้องหยุดชะงักไปอีกเช่นกัน ทำให้คาดว่าภาวะขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิคส์จะยังคงเป็นต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่ 2 ปีหน้า และทำให้กำลังการผลิตรถยนต์ลดลงไปด้วย จนทำให้ผู้ผลิตรถยนต์อย่าง General Motors และ Ford คาดว่ากำลังการผลิตจะยังไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาได้แบบปกติ และด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่มีเพิ่มขึ้นอย่างมากก็ส่งผลให้ราคารถยนต์ปรับสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาอีกด้วย

ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ในเดือนมิถุนายน 21 ปรับเพิ่มขึ้น 29.3% จากช่วงครึ่งปีแรกของปี 20 แต่เมื่อเทียบ 1H21 กับช่วง 1H19 ก่อนเกิด COVID19 พบว่ายอดขายยังคงปรับลดลง 1.3% โดยยอดขายรถยนต์ในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 15.4 ล้านคัน ขณะที่เดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 14.8 ล้านคัน ลดลงจากช่วงครึ่งปีแรกที่มียอดขายรายเดือนเฉลี่ย 17-18 ล้านคัน ซึ่งเป็นผลหลักจากการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิตนั่นเอง การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์จึงไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของความต้องการที่ฟื้นตัว แต่ยังขึ้นอยู่กับภาวะขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิคส์และความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิคส์ในเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ดีคาดว่าการขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิคส์น่าจะปรับตัวดีขึ้นได้ในภายหลังจากนี้และทำให้ยอดขายรถยนต์ดีขึ้นในปี 2022  ขณะที่ช่วงครึ่งหลังของปี 2021 น่าจะยังเป็นช่วงที่แย่ที่สุดของอุตสาหกรรม

Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. (TSMC) บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์ คาดว่าภาวะขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิคส์สำหรับรถยนต์นั้นน่าจะเริ่มดีขึ้นในไตรมาส 3 ของปีนี้ หลังจากเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา TSMC ได้เพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นถึง 30% สำหรับการผลิตชิ้นส่วนที่สำคัญอย่าง Microcontroller units ที่ใช้ในรถยนต์ อย่างไรก็ตาม TSMC เป็นผู้ผลิตระดับต้นน้ำของอุตสาหกรรมซึ่งจะส่งต่อชิ้นส่วนอุปกรณ์ไปยังผู้ผลิตรายอื่นๆจนกระทั่งถึงบริษัทรถยนต์นั้นอาจต้องใช้เวลาประมาณ 26 สัปดาห์ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Ford คาดว่า Supply ดังกล่าวจาก TSMC จะมาถึงมือผู้ผลิตรถยนต์อีกอย่างน้อยในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

หากดูที่ระดับสินค้าคงคลังรายเดือนหรือรถยนต์สำเร็จรูปที่พอเหลือขายพบว่าปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกรกฎาคมระดับสินค้าคงคลังลดลงถึง 19.4% จากเดือนก่อนหน้าเหลือ 1.1 ล้านคันเท่านั้นซึ่งเป็นระดับที่ต่ำมากจากในอดีต ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยที่สะท้อนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมได้ดีที่สุดหากระดับสินค้าคงคลังสามารถปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับปกติได้

จากคาดการณ์ของ AutoForecast Solutions คาดว่ากำลังการผลิตรถยนต์จากทั่วโลกได้หายไปกว่า 7.1 ล้านคันในช่วงที่ผ่านมา โดยกว่า 4 ล้านคันเป็นกำลังการผลิตที่หายไปจาก North America และ Europe ทั้งนี้ในส่วนของ North America บริษัทที่ถูกกระทบมากที่สุดคือ Ford ที่กำลังการผลิตลดลงไปกว่า 3 แสนคัน หรือกำลังการผลิตลดลงเหลือเพียง 55% เท่านั้น และด้วยจำนวนรถยนต์ที่เหลือขายลดลงก็ทำให้ระดับราคารถยนต์ที่ขายอยู่ในอเมริกาส่วนใหญ่เกือบ 75% ของจำนวนที่ขายมีราคาเพิ่มขึ้นกว่า 36% จากช่วงก่อนเกิดการระบาดของ COVID19 ทำให้ทั้งผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยังคงพอใจกับภาวะที่เป็นอยู่และทำให้ราคาหุ้นของบริษัทผลิตรถยนต์ยังยืนอยู่ในระดับที่สูงได้