กองทุนเพื่อการออมมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 3.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7% จากเดือนมิถุนายนแต่ต่ำกว่าเมื่อสิ้นปีที่แล้วเล็กน้อย โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีเงินไหลเข้าสุทธิเกือบ 8 ร้อยล้านบาท น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 1 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามกองทุนเพื่อการออมมีเงินไหลเข้าสุทธิสะสม 8 เดือนรวม 3.5 พันล้านบาท ยังสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 3.3 พันล้านบาท
กองทุน SSF ที่อยู่ในกลุ่มหุ้นทั่วโลกมีเงินไหลเข้าสะสม 8 เดือนที่ระดับ 9 ร้อยล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุนในกองทุน K Positive Change Equity-SSF จากบลจ.กสิกรไทยมากที่สุด คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ใน 3 ของกลุ่ม ขณะที่กองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่รวมอยู่ที่ระดับ 7 ร้อยกว่าล้านบาท มีเงินไหลเข้าสะสม 8 เดือนระดับ 7 ร้อยกว่าล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุนในบลจ.ไทยพาณิชย์สูงสุดกว่า 3 ร้อยล้านบาท โดยรวมมูลค่าทรัพย์สินของบลจ.แต่ละแห่งเพิ่มขึ้นมาที่ระดับใกล้เคียงเมื่อสิ้นปีที่แล้วหลังจากที่หดตัวลงจากตลาดหุ้นขาลงเมื่อช่วงครึ่งปีแรก
ด้านผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี จากทิศทางตลาดหุ้นไทยที่ดีกว่าสหรัฐ จีน และทั่วโลก ส่งผลให้กองทุน SSF ที่ลงทุนในหุ้นไทยมีผลตอบแทนที่สูงกว่า โดยทั้ง 5 อันดับผลตอบแทนกองทุน SSF สะสม 8 เดือนเป็นกองทุนหุ้นไทย
กองทุน SSF เป็นการลงทุนในระยะยาว 10 ปี เพื่อประโยชน์ทางภาษี ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลนโยบาย ความเสี่ยง ค่าธรรมเนียมของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุนโดยยึดตามแผนการลงทุนและการทำ asset allocation เป็นสำคัญ โดยผู้ลงทุนสามารถดูข้อมูลกองทุน SSF ได้ที่