หากจีนแย่แล้วการลงทุนจะเป็นอย่างไร

นอกจากเรื่องของเศรษฐกิจจีนที่ยังดูไม่ดีนัก ยังมีอีกหลายๆเรื่องที่ทำให้คาดว่าโลกของเรากำลังเปลี่ยนแปลงไป

Morningstar 11/09/2566
Facebook Twitter LinkedIn

1

นอกจากเรื่องของเศรษฐกิจจีนที่ยังดูไม่ดีนัก ยังมีอีกหลายๆเรื่องที่ทำให้คาดว่าโลกของเรากำลังเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ เช่น VinFast ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเวียดนาม ที่มีขนาดธุรกิจในปัจจุบันที่ใหญ่กว่า Ford หรือ GM แล้ว หรืออย่าง Burger King ใน India ที่เปลี่ยนเมนูอาหารเนื่องมาจากราคามะเขือเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก หรือการที่รัสเซียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรักษาค่าเงินรูเบิล รวมไปถึงการที่ชาติตะวันตกร่วมกันตอบโต้การกระทำของรัสเซียแต่ก็พยายามที่จะเลี่ยงให้เกิดภาวะสงคราม เป็นต้น ในแง่การลงทุนในตลาดเกิดใหม่จึงมีคำถามว่าเราควรลดความเสี่ยงในการลงทุนโดยให้น้ำหนักมากขึ้นในตราสารหนี้หรือถือเงินสดมากขึ้นดีหรือไม่ หรือหันมาลงทุนในประเทศตัวเองมากขึ้นแทน

ที่ผ่านมานักลงทุนต่างตื่นเต้นกับโอกาสการลงทุนในจีนที่เศรษฐกิจเติบโตได้ดีจนสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงมากเมื่อเทียบกับการลงทุนในชาติตะวันตก และส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนมีน้ำหนักค่อนข้างมากในดัชนีหลักต่างๆ อย่างเช่น MSCI EM index ซึ่งในปี 2020 ตลาดหุ้นจีนมีน้ำหนักในดัชนีมากถึง 41% อย่างไรก็ดีแม้ว่าน้ำหนักในปัจจุบันของจีนได้ปรับลดลงเหลือ 33% และมีน้ำหนักจากประเทศอื่นมากขึ้นแทน เช่น Taiwan (14.77%), India (14.21%) และ South Korea (12.38%) เป็นต้น แต่การลงทุนในดัชนีตลาดเกิดใหม่ก็ยังทำให้นักลงทุนมีสัดส่วนการลงทุนค่อนข้างมากในจีนอยู่ดี รวมไปถึงในประเทศขนาดใหญ่ไม่กี่แห่งในเอเชียเท่านั้น ซึ่งหากนัลงทุนต้องการลงทุนในประเทศอื่นๆ เช่น Brazil (ได้ประโยชน์ในช่วงที่ราคาสินค้า Commodities ปรับตัวสูงขึ้น) นักลงทุนก็จะต้องเลือกลงทุนเองมากขึ้นโดยไม่เพียงแต่ลงทุนในดัชนีเท่านั้น

ทั้งนี้ MSCI ให้นิยามของตลาดเกิดใหม่โดยดูจากปัจจัย 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาทางเศรษฐกิจ มูลค่าและสภาพคล่องของตลาด และการเปิดรับการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ ดังนั้นแนวความคิดที่จะมีการปรับปรุงเกณฑ์ของดัชนีในอนาคต ก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวชี้วัดการพัฒนาทางเศรษฐกิจและตัวชี้วัดมูลค่าของตลาดที่กว้างขึ้น

 

จีนกับอินเดีย

ปัจจุบันประเทศในเอเชียและใน EM รวมถึงจีนอาจตกอยู่ในภาวะ"Middle income trap" อย่างไรก็ดี Ian Beattie ผู้จัดการกองทุน Nedgroup Investments Global Emerging Markets Equity fund เชื่อว่าจีนกําลังถอยหลังภายใต้การนําของนายสีจิ้นผิง แต่เชื่อว่าอินเดียยังน่าสนใจลงทุนเนื่องจากยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโตทางเศรษฐกิจเท่านั้นโดยเฉพาะการเติบโตของชนชั้นกลางในอินเดีย นอกจากนี้ในแง่ของธรรมภิบาลของบริษัทต่างๆในอินเดียก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น การคอรัปชันต่างๆลดน้อยลง และยิ่งมีการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในอินเดียมากขึ้นก็ยิ่งผลักดันให้เรื่องต่างๆที่ไม่ดีในประเทศลดน้อยลงไปด้วย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศอย่างเช่น เวียดนามและอินโดนีเซียที่ Beattie มองว่าสามารถพัฒนาเป็นฐานการผลิตทดแทนจากจีนได้อีกด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีในอนาคตจีนก็อาจฟื้นกลับมาได้ด้วยดีและเป็นที่น่าสนใจอีกครั้ง ทั้งนี้ไม่ว่าจีนหรืออินเดียจะเป็นผู้ชนะในวัฐจักรรอบนี้ สิ่งสำคัญของการลงทุนอยู่ที่การยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้

 

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar  Morningstar