5 Themes ลงทุนหลังผลประกอบการ Q3

จากรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ในสหรัฐ พบว่าโดยรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มลดลง ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับเพิ่มขึ้นสูงเร็วกว่าการปรับขึ้นของรายได้

Morningstar 30/11/2566
Facebook Twitter LinkedIn

จากรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ในสหรัฐ พบว่าโดยรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มลดลง ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับเพิ่มขึ้นสูงเร็วกว่าการปรับขึ้นของรายได้ ด้านอัตราเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัยก็สูงขึ้นแตะ 8% ทำให้เริ่มมีความต้องการลดภาระหนี้ในส่วนนี้มากขึ้น

กำลังซื้อผู้บริโภคเริ่มอ่อนแอลง

กำลังซื้อผู้บริโภคเริ่มอ่อนแอลงในหลายหมวดสินค้าทั้งยอดขายอาหาร เสื้อผ้า ของเล่น หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอลง ซึ่งสะท้อนจากยอดขายสินค้าของบริษัทต่างๆอย่างเช่น Target , Kraft Heinz, Unilever, Nestle, Anheuser-Busch InBev, Heineken เป็นต้น ที่รายงานปริมาณการขายสินค้าปรับลดลงในรอบนี้ นอกจากนี้ในอดีตเราเคยคาดว่ายอดขายสินค้าในกลุ่ม Luxury น่าจะยังดี แต่ปัจจุบันอัตราการเติบโตก็เริ่มชะลอลง ผู้ผลิตสินค้าเพื่อความงามอย่าง Estee Lauder รายงานยอดขายสินค้าในกลุ่ม Skincare ปรับลดลง หรืออย่าง Hugo Boss ที่มียอดขายในหมวดเครื่องแต่งกายปรับลดลงด้วยเช่นกัน

1

หุ้นที่เกี่ยวข้องกับสงครามเป็นที่นิยมมากขึ้น

หลังจากความขัดแย้งระหว่างประเทศมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งความไม่สงบในยูเครนและในอิหร่าน ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินและยุทโธปกรณ์เป็นที่สนใจจากนักลงทุนมากขึ้น

1

ธุรกิจในกลุ่มนี้จึงคาดว่าจะยังเติบโตไปได้อีกหลายปีจากนี้ เนื่องจากน่าจะมีคำสั่งซื้อก้อนใหญ่เข้ามาอีกมาก ตัวอย่างเช่นในทวีปยุโรปที่ยังมีการใช้จ่ายในส่วนนี้ไม่มากหลังจากผ่านช่วง Cold War มา และทำให้บริษัทอย่าง  France’s Thales มีความน่าสนใจเนื่องจากรายได้ 2 ใน 3 มาจากการขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับยุทโธปกรณ์ให้กับทวีปยุโรป

ธุรกิจที่อยู่อาศัยยังอ่อนแอ

นอกจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นนั้นจะทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคอ่อนแอลงแล้ว สำหรับในภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเนื่องจากต้นทุนในการกู้ยืมที่สูงขึ้นนั้นทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยชะลอลงไป

1

ทั้งนี้คาดว่าอสังหาฯรายใหญ่ในสหรัฐอย่าง  D.R. Horton, จะมีโครงการใหม่ออกขายลดลงในปีนี้ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ยังส่งผลต่อความต้องการในธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างลดลงเช่นกันซึ่งทำให้รายงานยอดขายของบริษัทต่างๆอย่างเช่น Caterpillar, Saint Gobain, Holcim, และ Heidelberg ปรับลดลง

คำสั่งซื้อในภาคอุตสาหกรรมอยู่ในระดับต่ำ

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตที่ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 สะท้อนถึงการหดตัวของภาคการผลิต ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการของผู้บริโภคที่อ่อนแอลง ทำให้ภาคการผลิตในอุตสาหกรรมและความต้องการเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ลดน้อยลงไปด้วย

1

นอกจากนี้ยังเป็นผลจากช่วงหลัง COVID-19 ที่เมื่อกิจกรรมเศรษฐกิจฟื้นตัว ภาคธุรกิจมีการสั่งสินค้าจำนวนมากมากักตุนหลังจากเกิดภาวะ Supply shortage และเพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่ฟื้นตัวหลังเปิดประเทศ ส่งผลให้ความต้องการสั่งสินค้าของผู้ประกอบการชะลอลงในช่วงนี้ อย่างไรก็ดีจากรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 พบว่าบริษัทในกลุ่มเคมิคอลล์อย่าง DuPont และ BASF เริ่มเห็นสัญญาณของสินค้าคงคลังที่ลดลงแล้วทำให้คาดว่าแนวโน้มการเติบโตของกำไรจะค่อยๆดีขึ้นในไตรมาสถัดๆไป

อัตรากำไรของกลุ่มธนาคารผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว

แม้จะมีช่วงวิกฤติธนาคารในสหรัฐและยุโรปเมื่อประมาณ 8 เดือนที่ผ่านมา แต่อัตรากำไรของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่รายงานออกมานั้นยังดีขึ้นจากช่วงที่แย่ในอดีต

1

ทั้งนี้ในอดีตหลังจากที่ผ่านช่วง Global financial crisis กลุ่มธนาคารเป็น Sector ที่ไม่น่าสนใจลงทุน เนื่องจากนโยบายของธนาคารกลางต่างๆที่อัดฉีดเงินเข้าระบบการเงิน อัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ และเศรษฐกิจที่แย่ ก็ทำให้ความสามารถในการทำกำไรของธนาคารลดน้อยลง แต่ด้วยภาพของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นตามนโยบายของ Fed ในช่วงที่ผ่านมานั้นก็ช่วยทำให้ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยหรืออัตรากำไรของแบงค์จากต้นทุนการปล่อยกู้นั้นปรับดีขึ้นด้วยในช่วงที่ผ่านมาและทำให้อัตรากำไรของธนาคารสูงขึ้นจนถึงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีเราคาดว่าอัตรากำไรของธนาคารพาณิชย์ได้เข้าถึงจุดสูงสุดในไตรมาส 3 ที่ผานมานี้และมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงจากนี้ไป ทั้งจากอัตราการกู้ยืมในที่อยู่อาศัยที่ลดลงและการตั้งสำรองหนี้สูญที่สูงขึ้นจากการที่ผู้บริโภคและภาคธุรกิจเริ่มมีปัญหาในการชำระหนี้จากอัตราดอกเบี้ยจ่ายที่อยู่ในระดับสูงอย่างมาก

 

 

 

 

 

 

 

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar  Morningstar