ถึงเวลาลงทุนใน ETF จีนหรือยัง?

ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจของจีนที่ยังไม่แข็งแกร่งและปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและถอนเงินลงทุนออกจากประเทศจีน 

Morningstar 19/02/2567
Facebook Twitter LinkedIn

ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจของจีนที่ยังไม่แข็งแกร่งและปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและถอนเงินลงทุนออกจากประเทศจีน ทั้งนี้ผลตอบแทนของ Morningstar China Index และ Morningstar Hong Kong Index ปรับลดลงประมาณ 7% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Morningstar Global Market Index ปรับเพิ่มขึ้น 10.7% และหากดูในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาก็ไม่ต่างกันทั้ง Morningstar China Index และ Morningstar Hong Kong Index ปรับลดลง -26% และ -27% ตามลำดับ ส่วน Morningstar Global Market Index ปรับเพิ่มขึ้น 15.5%

Amundi หัวหน้ากลุ่มจัดการลงทุนที่ Vincent Mortier คาดว่าในปีนี้ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ของจีนจะปรับลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากมีจำนวนบ้านที่มีระดับราคาไม่สูงมากเพิ่มขึ้นใหม่จำนวนมาก ประกอบกับการที่รัฐบาลท้องถิ่นของจีนจะเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ในระบบทำให้เป็นปัจจัยกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจจีนต่อไปในช่วง 3-5 ปีจากนี้ อย่างไรก็ดีจากนี้คงไม่ได้อยู่ที่ว่าการเติบโตจะชะลอตัวลงอีกหรือไม่ แต่อยู่ที่จีนจะสามารถมีอนาคตที่ยั่งยืนได้หรือไม่ภายใต้การมุ่งไปสู่การพัฒนาทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนผ่านทางด้านพลังงานจากนี้ไป

1

ที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศได้ถอนเงินออกจากตลาดหุ้นจีนและส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับลดลง โดยปีที่แล้วนักลงทุนในยุโรปได้ถอนเงินออกจาก China equity open-end funds ประมาณ 2,900 ล้านยูโร ทำให้กองทุนเติบโตติดลบ 6.6% ในปีที่ผ่านมา แต่หากดูเฉพาะส่วนที่เป็น China equity ETFs พบว่าขนาดเม็ดเงินโดยรวมเติบโต 6.15% ในปีที่แล้ว และหากดูย้อนหลัง 3 ปี  พบว่ากลุ่ม ETFs ที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้นจีนมีเงินไหลเข้าสุทธิเกือบ 4,000 ล้านยูโร

จีนทำอย่างไรกับสภาพตลาดหุ้นที่แย่ในตอนนี้

รัฐบาลจีนมีแผนที่จะใช้เงิน 2 ล้านล้านหยวนเพื่ออัดฉีดเงินรักษาเสถียรภาพในตลาดหุ้นและป้องกันการซื้อขายที่ผิดปกติ ขณะที่ในไตรมาสที่แล้ว แจ็ค หม่า ได้เข้าซื้อหุ้นของ Alibaba ในตลาดด้วยจำนวนเงินประมาณ 50 ล้านเหรียญสหรัฐและส่งผลให้ราคาหุ้นในตลาดปรับเพิ่มขึ้นด้วยหลังจากที่มีข่าวออกมา นอกจากนี้ธนาคารกลางของจีนยังมีแผนปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและพยุงเศรษฐกิจซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสภาพคล่องในตลาดได้ถึง 1 ล้านล้านหยวน อย่างไรก็ดี Massimo De Palma หัวหน้าทีมการลงทุนที่ GAM Italy เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยบวกให้ตลาดหุ้นได้เพียงชั่วคราว การดําเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและการฟื้นฟูความเชื่อมั่นในตลาดคือสิ่งสำคัญของทางการจีน

ควรลงทุนในตลาดหุ้นจีนที่ปรับลงมามากในตอนนี้หรือไม่

Amundi หัวหน้ากลุ่มจัดการลงทุนที่ Vincent Mortier กล่าวว่าหากต้องการลงทุนในตลาดหุ้นจีนตอนนี้จะต้องเลือกลงทุนให้ดี แม้ว่าการที่จีนจะมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนจะเป็นเหมือนโอกาสการลงทุนที่ดีในระยะยาว แต่นักลงทุนจะต้องเลือกลงทุนให้ดีเพื่อรับมือกับเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอในตอนนี้ ทั้งนี้ในเชิงมูลค่าพื้นฐานเทียบกับราคาตลาดถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจแม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากการถูกปรับลดคาดการณ์กำไรในปีนี้ลงอีกก็ตาม นอกจากนี้ Andrew Lapping หัวหน้าทีมลงทุนที่ Ranmore Fund Management เชื่อว่าตลาดที่ปรับลงมามากเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าลงทุนแม้ว่าจะสวนทางจากคนส่วนมากที่หนีออกจากตลาดก็ตาม แม้จะมีความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดหุ้นจีนก็ตามซึ่งอยู่ที่ว่าความเสี่ยงนั้นได้สะท้อนไปในราคาหุ้นแล้วหรือยัง ตลาดที่ลงมามากจึงเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าลงทุนบริษัทที่มีคุณภาพดี มีเงินทุนแข็งแกร่ง แต่ราคาซื้อขายอยู่ในระดับต่ำ

จีนยังเป็นความหวังในอนาคตหรือไม่

ในช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้เรายังเชื่อว่าจีนคือความหวังในอนาคต แต่เพียงช่วงเวลาสั้นๆที่เป็นอยู่ในตอนนี้จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปได้หรือไม่ หากนับตั้งแต่ปี 2021ถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นจีนปรับลงมาแล้ว -45% ซึ่งจริงๆแล้วเป็นการปรับลงโดยปกติของตลาดหุ้นจีนที่มักจะปรับลงทุก 4 ปีนับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา ปัจจุบัน PE ของตลาดอยู่ที่ประมาณ 10 เท่า เทียบกับช่วงปี 2021 ที่ภาพการลงทุนยังเป็นบวกทำให้ตลาดหุ้นเคยซื้อขายอยู่ในระดับสูงถึง  18 เท่า ระดับราคาที่ซื้อขายในตอนนี้จึงเป็นระดับการลงทุนที่ดีที่ทำให้นักลงทุนมีระดับ Margin of safety ที่ค่อนข้างกว้าง

1

อย่างไรก็ตาม หากดูจากการจัดอันดับของ Morningstar พบว่า Ratings ของ ETFs จีนที่ได้ในตอนนี้ยังคงเป็นอันดับ Negative หรือ Neutral เป็นส่วนใหญ่

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar  Morningstar