หุ้น Apple และภัยคุกคามด้านภาษี

มอร์นิ่งสตาร์ประเมินมูลค่าหุ้น Apple ไว้ดังนี้

Fair Value Estimate: $200.00

Morningstar Rating: ★★★

Morningstar Economic Moat Rating: Wide

Morningstar Uncertainty Rating: Medium

เมื่อเร็วๆนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงขู่ว่าจะเก็บภาษีเพิ่มเติมกับ Apple ในวันที่ 23 พฤษภาคม ในแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขา ทรัมป์แสดงความต้องการให้การผลิต iPhone ย้ายกลับมาที่สหรัฐอเมริกา และอ้างว่า Apple จะต้องเผชิญกับภาษี 25% สำหรับ iPhone ที่นำเข้าจากอินเดียและประเทศอื่น ๆ

ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ:
เรามองว่าการผลิต iPhone ในสหรัฐฯ ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้ในระยะกลาง สำหรับเรา นี่เป็นเพียงกลยุทธ์เจรจาเพื่อผลักดันให้ Apple ลงทุนในสหรัฐฯ มากขึ้น โดยน่าจะมาในรูปแบบของการลงทุนชิปภายในประเทศ และอาจรวมถึงการผลิตอุปกรณ์รุ่นเล็กที่มีปริมาณน้อยกว่ารุ่นเรือธงอย่าง iPhone

ก่อนหน้านี้เรามองว่าการผลิตในจีนมีความเสี่ยงจากภาษีสูงสุดสำหรับ Apple แต่ตอนนี้ทรัมป์กำลังมุ่งเป้าไปที่อินเดีย ซึ่งเป็นที่ผลิต iPhone กว่าครึ่งหนึ่งที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เรายังคงเชื่อว่าการจ่ายภาษี 25% แบบเหมารวมจะมีความคุ้มค่ากว่าการผลิต iPhone จำนวนมากในประเทศ

Apple ได้ประกาศการลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นการตอบสนองเพื่อปลอบใจฝ่ายบริหารของทรัมป์ และเพื่อขอการยกเว้นภาษี เราเชื่อว่าฝ่ายบริหารทราบว่ามีอำนาจต่อรองกับ Apple ผ่านการเก็บภาษี และกำลังใช้เรื่องนี้เพื่อให้ได้ข้อผูกมัดที่มากขึ้นจากบริษัท

สรุป:
เรายังคงประมาณมูลค่าที่เหมาะสมของ Apple ที่ 200 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยถือว่าเป็นบริษัทที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างมาก (wide-moat) เรายังคงสมมติว่ามีการยกเว้นภาษีในกรณีฐาน แม้ว่าจะมีท่าทีแข็งกร้าวในระยะสั้นจากฝ่ายบริหาร แต่เราคาดว่าจะมีข้อตกลงการลงทุนที่หลีกเลี่ยงการเก็บภาษีเหมารวมสำหรับ iPhone

หาก Apple ต้องเผชิญกับภาษีเหมารวม 25% สำหรับ iPhone ในสหรัฐฯ เราคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อกำไรและมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทในช่วง 5%-15% ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ Apple ว่าจะปรับราคาสินค้าเพื่อชดเชยต้นทุนหรือไม่ (ซึ่งอาจส่งผลลบต่อยอดขายหน่วย)

หุ้นของ Apple ดูเหมือนจะมีมูลค่าที่เหมาะสม แม้จะมีการปรับตัวลดลงประมาณ 3% ในระหว่างวันของวันที่ 23 พฤษภาคม จากข่าวนี้ เราเชื่อว่าความกังวลเกี่ยวกับภาษีถูกสะท้อนในราคาหุ้นอย่างเพียงพอแล้ว รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของ Apple ในการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยเพิ่มการเติบโตในอนาคต ซึ่งเราได้นำมาคิดคำนวณในมูลค่าของบริษัทด้วย